อัตราแรงขุด Bitcoin หรือ Hash Rate ซึ่งเป็นกำลังการคำนวณที่นักขุดใช้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนของ Bitcoin โดยพื้นฐานแล้ว Hash Rate เป็นเหมือนตัวอ้างอิงที่สำคัญถึงความสามารถในการทำกำไรจากการขุด Bitcoin
หาก Hash Rate ของระบบสูงขึ้น ในขณะที่ Hash Rate ของนักขุดอยู่ในอัตราเท่าเดิม หมายความว่าผลตอบแทนที่คาดหวังในอนาคตจากการขุด Bitcoin จะต่ำลง ในขณะที่ต้นทุนในการขุดยังเท่าเดิม ทำให้กำไรจากการขุดจะลดลงไปด้วย
อีกด้านหนึ่ง นักลงทุนยังใช้ Hash Rate เป็นตัวบ่งชี้ถึงความปลอดภัยของระบบ ยิ่ง Hash Rate มีค่าสูง ก็ยิ่งทำให้ระบบถูกโจมตีได้ยาก และทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในระบบเพิ่มขึ้น
ก่อนหน้านี้ Hash Rate ของ Bitcoin พุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดที่ 248.1 ล้าน Terahashes ต่อวินาที เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุด ตัวเลขดังกล่าวได้ปรับตัวลงมาแตะระดับ 173.8 ล้าน Terahashes ต่อวินาที หรือลดลงมา 30% จากจุดสูงสุด
“Hash Rate ของ Bitcoin ที่ลดลงมานี้เป็นผลจากนักขุดในยูเครนและรัสเซียที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม” Hayden Hughes ซีอีโอของ Alpha Impact กล่าว “เครื่องขุด Bitcoin บางส่วนอยู่ในพื้นที่ขัดแย้งและต้องปิดระบบลง ขณะที่นักขุดบางส่วนได้ย้ายสถานที่ขุดจากพื้นที่ที่อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นในอนาคต”
ขณะที่ราคาของ Bitcoin ที่ฟื้นตัวกลับไปแตะระดับ 40,000 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ล่าสุดได้อ่อนตัวกลับมาต่ำกว่า 38,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากที่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้สั่งให้กองกำลังป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์เตรียมความพร้อมในระดับสูงสุด หลังจากที่พันธมิตรของ NATO ส่งสัญญาณว่าจะเติบโต้รัสเซีย ซึ่งรวมถึงมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
อ้างอิง: