วานนี้ (25 มิถุนายน) ความเคลื่อนไหวในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทางสำนักข่าว Reuters รายงานว่ามีการโจมตีโดยขีปนาวุธของรัสเซียจำนวนมากทั่วยูเครน โดยได้โจมตีฐานทัพทางตะวันตกและทางเหนือ เช่นเดียวกับเมืองทางใต้ของประเทศ
เจ้าหน้าที่ทางการยูเครนระบุวานนี้ว่า ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศของรัสเซียได้โจมตีเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์และลิซิชานสก์ในแคว้นลูฮันสก์ทางตะวันออกของยูเครนเมื่อ 24 มิถุนายน และโจมตีเข้าใส่โรงงานเคมีซึ่งมีพลเรือนนับร้อยติดอยู่ นอกจากนี้ทางการยูเครนยังระบุว่า กองกำลังของตนได้รับคำสั่งให้ล่าถอยจากเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ เพราะยังเหลือกองกำลังที่ปกป้องเมืองน้อยมากหลังการต่อสู้ที่ดุเดือดยาวนานหลายสัปดาห์ ข่าวการถอนกำลังดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อครบ 4 เดือนของสงครามรัสเซีย-ยูเครน
การรุกคืบล่าสุดของรัสเซียดูเหมือนจะทำให้รัสเซียเข้าใกล้การควบคุมแคว้นลูฮันสก์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และทำให้มีความเป็นไปได้ว่าลิซิชานสก์จะกลายเป็นจุดโฟกัสหลักต่อไป
วิตาลี คิเซเลฟ เจ้าหน้าที่รายหนึ่งในกระทรวงมหาดไทยของพื้นที่ที่เรียกตนเองว่าสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ซึ่งได้รับการยอมรับเพียงจากรัสเซีย ระบุกับสำนักข่าว TASS ของรัสเซียว่า จะใช้เวลาอีกราวหนึ่งสัปดาห์ครึ่งในการเข้าควบคุมเมืองลิซิชานสก์อย่างสมบูรณ์ ขณะที่ เซอร์ฮีย์ ไฮได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ระบุว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีเขตอุตสาหกรรมของเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ และยังพยายามเข้าสู่เมืองและปิดล้อมเมืองลิซิชานสก์ในวันเสาร์ด้วย
“มีการโจมตีทางอากาศที่ลิซิชานสก์ เซียเวียโรโดเนตสก์ถูกยิงด้วยปืนใหญ่” ไฮไดกล่าวผ่านแอปพลิเคชัน Telegram และเสริมว่าโรงงานเคมีอาซอตในเซียเวียโรโดเนตสก์ ตลอดจนหมู่บ้านต่างๆ อย่าง Synetsky และ Pavlograd ก็ถูกโจมตีเช่นกัน แต่เขาไม่ได้กล่าวถึงเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตที่โรงงานอาซอต และ Reuters ก็ระบุว่ายังไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวอย่างเป็นอิสระได้ ไฮไดยังระบุด้วยว่ามีการอพยพผู้คน 17 คนจากเมืองลิซิชานสก์โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และอาสาสมัคร
นอกจากนี้ที่ปรึกษารายหนึ่งของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ก็ระบุว่า ทางตอนใต้ของเซียเวียโรโดเนตสก์ ทหารยูเครนก็ถอนกำลังออกจากเมืองเฮียร์สเกและเมืองโซโลเต เมื่อเผชิญกับกองกำลังรัสเซียจำนวนมาก ขณะที่ ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน พยายามลดทอนนัยสำคัญของประเด็นการสูญเสียดินแดนมากขึ้นในภูมิภาคดอนบาสที่อาจจะเป็นไปได้
“ปูตินต้องการครอบครองดอนบาสภายในวันที่ 9 พฤษภาคม เรา (อยู่ที่นั่น) ในวันที่ 24 มิถุนายน และยังคงต่อสู้อยู่ การถอยจากการต่อสู้เพียงไม่กี่ครั้งไม่ได้หมายถึงการแพ้สงครามเลย” คูเลบาระบุในการสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อิตาลี Corriere della Sera
ส่วนวานนี้ Reuters รายงานคำกล่าวของเสนาธิการทหารของยูเครนว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธใส่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารและพลเรือนอีกครั้งทางตอนเหนือ ใกล้กับเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ผ่านไปยังเซียเวียโรโดเนตสก์ทางภาคตะวันออก ขณะที่ผู้ว่าการแคว้นหลายคนรายงานการโจมตีในเมืองต่างๆ ทั่วยูเครน ซึ่งที่ผ่านมารัสเซียปฏิเสธการมุ่งเป้าหมายพลเรือน ส่วนยูเครนและชาติตะวันตกระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ก่ออาชญากรรมสงครามต่อพลเรือน
โดย แม็กซิม โคซีตสกี ผู้ว่าการแคว้นลวีฟ ทางตะวันตกของยูเครน กล่าวในวิดีโอที่โพสต์ผ่านทางออนไลน์ว่า มีขีปนาวุธ 6 ลูกถูกยิงจากทะเลดำไปยังฐานทัพยาโวริฟใกล้กับชายแดนโปแลนด์ โดยขีปนาวุธ 4 ลูกถูกเป้าหมาย แต่อีก 2 ลูกถูกทำลาย ส่วน วิตาลี บูเนชโก ผู้ว่าการแคว้นซิโตเมียร์ทางเหนือของยูเครน ระบุว่า การโจมตีเป้าหมายทางทหารหลายครั้งได้สังหารทหารไปอย่างน้อยหนึ่งราย และทางตอนใต้ โอเล็กซานเดอร์ เซนเควิช นายกเทศมนตรีเมืองมิโคลาเยฟใกล้กับทะเลดำระบุว่า ขีปนาวุธร่อน 5 ลูกพุ่งเข้าใส่เมืองและพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อวานนี้ และจำนวนผู้เสียชีวิตกำลังถูกทำให้ชัดเจน
อีกด้านหนึ่ง ยูเครนยังคงมีความพยายามกดดันให้ได้อาวุธมาเพิ่มเติม โดยเมื่อวันศุกร์ (24 มิถุนายน) พล.อ. เลรี ซาลุชนี นายทหารระดับสูงของกองทัพยูเครน ได้ระบุกับ พล.อ. มาร์ก มิลลีย์ ประธานเสนาธิการร่วมของสหรัฐอเมริกาทางโทรศัพท์ว่า ยูเครนต้องการ ‘ความเท่าเทียมด้านอาวุธ’ กับรัสเซีย เพื่อทำให้สถานการณ์ในแคว้นลูฮันสก์มีเสถียรภาพ ขณะที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุวานนี้ว่ารัสเซียมีแนวโน้มที่จะถอนนายพลหลายคนออกจากบทบาทบัญชาการที่สำคัญในสงครามยูเครนไปแล้วในเดือนนี้ด้วย
อ้างอิง:
