วันนี้ (25 กุมภาพันธ์) ปีเตอร์ เมาเรอร์ ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC (International Committee of the Red Cross) ออกแถลงการณ์เรื่องความขัดแย้งในประเทศยูเครน โดยระบุว่า การสู้รบระลอกล่าสุดในประเทศยูเครนทำให้เรารู้สึกกังวลใจอย่างยิ่งยวด การยกระดับความรุนแรงและการกระจายตัวเป็นวงกว้างของการต่อสู้นั้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตและการทำลายล้างในระดับที่น่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้เมื่อคำนึงถึงแสนยานุภาพทางทหารของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ขณะนี้เราได้เห็นผลกระทบโดยตรงต่อพลเรือนแล้ว โดยสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นล่าสุดส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานระลอกใหม่ ทั้งนี้ เป็นเวลา 8 ปีมาแล้วที่ประชากรในภูมิภาคดอนบาสและอีกหลายแห่งต้องทนอยู่กับผลกระทบจากความขัดแย้ง ในตอนนี้เรากลัวว่าผลกระทบที่มีอยู่แล้วจะเพิ่มมากขึ้นไปอีก อันจะนำไปสู่การสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมหาศาล และการทำลายวัตถุพลเรือนที่สำคัญ เช่น โรงผลิตน้ำประปาและโรงงานไฟฟ้า ตลอดจนการย้ายถิ่นฐานของประชากรขนานใหญ่ ผลกระทบทางจิตใจ การพลัดพรากจากครอบครัว และการสูญหายของบุคคล
จากประสบการณ์การทำงานอย่างยาวนานของ ICRC เราพบว่า ความผิดพลาดและความคลาดเคลื่อน ตลอดจนการขาดความเข้าใจในการประเมินผลกระทบที่อาจจะมีต่อพลเรือนจากปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่ สามารถนำมาสู่ผลกระทบที่เลวร้ายได้
เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสู้รบครั้งล่าสุดคำนึงถึงประเด็นดังต่อไปนี้ กล่าวคือ
- ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศยูเครน ต้องยึดมั่นในกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วยอนุสัญญาเจนีวาทั้ง 4 ฉบับ และพิธีสารเพิ่มเติมปี 1977 รวมถึงต้องให้ความคุ้มครองต่อพลเรือนและผู้ถูกคุมขัง ทั้งนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องละเว้นการโจมตีที่ละเมิดกฎแห่งการสู้รบ ไม่ใช้วิธีการโจมตีที่ละเมิดข้อกำหนด งดเว้นการใช้อาวุธที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในพื้นที่อาศัยของพลเรือน
- การโจมตีทั้งหลายต้องไม่พุ่งเป้าไปยังวัตถุพลเรือนและระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ระบบน้ำ ก๊าซหุงต้ม และไฟฟ้า ซึ่งจำเป็นต่อที่อยู่อาศัยของพลเรือน โรงเรียน และสถานพยาบาล การโจมตีใดๆ ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมไปถึงการใช้วิธีทางไซเบอร์ ล้วนต้องเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
- พื้นที่ที่มีความเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ และเป็นอิสระ สำหรับการดำเนินงานด้านมนุษยธรรม ต้องได้รับความคุ้มครอง เพื่อที่หน่วยงานด้านมนุษยธรรม ไม่ว่าจะเป็น สภากาชาดยูเครน คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ และสมาชิกกลุ่มองค์กรกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงอื่นๆ จะยังสามารถเข้าถึงพลเรือนและให้ความช่วยเหลือได้
สิ่งสำคัญลำดับแรกในขณะนี้ของ ICRC คือการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ช่วงสัปดาห์นี้ เราได้ส่งมอบน้ำดื่มจำนวน 3,000 ลิตรให้แก่โรงพยาบาลโดคูชาเยฟสกายา และอีก 7,000 ลิตรให้แก่เทศบาลเมืองโดเนตสก์ นอกจากนี้ยังเข้าเยี่ยมที่คุมขังหลายแห่งเพื่อช่วยปรับปรุงระบบสุขอนามัยและโภชนาการของผู้ถูกคุมขัง หากสถานการณ์ในพื้นที่ยังมีความปลอดภัยเพียงพอ ทีมงานของเราในประเทศยูเครนก็จะยังคงทำงานซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อไป รวมถึงให้ความช่วยเหลือด้านเวชภัณฑ์และยารักษาโรคแก่สถานพยาบาล และมอบอาหารและอุปกรณ์สุขอนามัยแก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้เราจะยังคงดำเนินการพูดคุยแบบทวิภาคีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งโดยไม่เปิดเผยข้อมูลที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการสู้รบได้รับการปกป้อง
เราเรียกร้องให้รัฐทั้งหลายดำเนินการในทุกวิถีทางด้วยอำนาจและอิทธิพลที่มีอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงการยกระดับของความขัดแย้ง อันจะทำให้เกิดผลกระทบต่อประชากรพลเรือนอย่างรุนแรง และเสียหายในระดับที่เกินกว่าศักยภาพที่มีอยู่จะปกป้องและให้ความช่วยเหลือ
ICRC ได้เห็นความขัดแย้งมากมายที่เกิดขึ้นและยกระดับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความขัดแย้งเหล่านี้มีส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถจบลงได้ในที่สุด และผู้ได้รับกระทบก็คือประชากรพลเรือน