ลิกเตนสไตน์เตรียมเรียกประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ในวันนี้ (19 เมษายน) เพื่ออภิปรายเกี่ยวกับร่างมติที่กำหนดให้ 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส และอังกฤษ ต้องแสดงความชอบธรรมในการใช้สิทธิวีโต้ (Veto) หรือสิทธิในการยับยั้งมติต่างๆ
ร่างมติดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดเก่าที่มุ่งเป้าลดการใช้อำนาจวีโต้ของสมาชิกถาวร ถูกนำเสนออีกครั้งภายหลังรัสเซียเปิดฉากทำสงครามบุกยูเครนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมี 50 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุน ยกเว้น 4 ชาติสมาชิกถาวรที่เหลือ ซึ่งคาดว่าจะมีการโหวตรับรองมติหลังจากนี้
สำนักข่าว AFP เปิดเผยรายละเอียดข้อเสนอร่างมติดังกล่าว ซึ่งระบุข้อกำหนดให้มีการเปิดอภิปรายถึงสถานการณ์ที่มีการใช้สิทธิวีโต้ภายใน 10 วัน หลังจากที่หนึ่งในชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงประกาศใช้สิทธิวีโต้
สำหรับชาติที่สนับสนุนร่างมติดังกล่าว รวมถึงยูเครน ญี่ปุ่น และเยอรมนี โดย 2 ประเทศหลังนั้นมีความหวังที่จะได้เก้าอี้สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงหากมีการขยายเพิ่มเติมในอนาคต เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองในเวทีโลก
ส่วนชาติสมาชิกถาวรอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ คาดว่าฝรั่งเศสจะโหวตรับรองร่างมติดังกล่าว ส่วนอังกฤษ จีน และรัสเซีย ยังไม่มีท่าทีแน่ชัด
ทั้งนี้ อำนาจวีโต้ถูกใช้เป็นครั้งแรกโดยสหภาพโซเวียต ในปี 1946 ซึ่งจนถึงปัจจุบันรัสเซียใช้วีโต้รวมแล้ว 143 ครั้ง มากกว่าสหรัฐฯ ที่ใช้ไป 86 ครั้ง ส่วนอังกฤษ 30 ครั้ง จีนและฝรั่งเศส ประเทศละ 18 ครั้ง
โดยการใช้วีโต้ของรัสเซียจะเป็นไปเพื่อยับยั้งการดำเนินการของคณะมนตรีความมั่นคง ที่คาดว่าจะเข้าไปแทรกแซงกรณีความขัดแย้งในประเทศต่างๆ รวมถึงการวีโต้มติประณามการทำสงครามบุกยูเครนก่อนหน้านี้
ซึ่งนอกจาก 5 ชาติสมาชิกถาวรดังกล่าว คณะมนตรีความมั่นคงยังมีสมาชิกไม่ถาวรอีก 10 ประเทศ แต่ทั้งหมดไม่มีสิทธิในการวีโต้
ภาพ: Spencer Platt / Getty Images
อ้างอิง: