สำนักข่าว Reuters รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยูเครนเมื่อวานนี้ว่า กองกำลังรัสเซียได้ระเบิดทำลายสะพานแห่งหนึ่งที่เชื่อมเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์กับอีกเมืองในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งเป็นการตัดเส้นทางการอพยพหนีของประชาชน ขณะที่เมืองดังกล่าวกำลังเป็นสมรภูมิรบที่ดุเดือดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ระบุว่า เป้าหมายเชิงกลยุทธ์หลักของรัสเซียยังไม่เปลี่ยนแปลง “พวกเขากำลังบดขยี้ในเซียเวียโรโดเนตสก์ การสู้รบที่ดุเดือดยังดำเนินอยู่ที่นั่น อาจกล่าวได้ว่าทุกตารางเมตรเลยก็ว่าได้”
ผู้นำยูเครนกล่าวว่า ภาพการบาดเจ็บของเด็กอายุ 12 ปีจากการโจมตีของรัสเซียนั้นกลายเป็นโฉมหน้าแท้จริงของรัสเซียในเวลานี้ “ข้อเท็จจริงเหล่านี้จะตอกย้ำถึงแนวทางของรัสเซียที่ทั่วโลกมองเห็น
“ไม่ใช่พระเจ้าปีเตอร์มหาราช ไม่ใช่ ลีโอ ตอลสตอย แต่เด็กบาดเจ็บและถูกฆ่าจากการโจมตีของรัสเซีย” เซเลนสกีกล่าว โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้เปรียบเทียบการทำสงครามของรัสเซียครั้งนี้ว่าเหมือนกับการยกทัพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชไปพิชิตดินแดนคืนจากสวีเดนในศตวรรษที่ 18
สำหรับสถานการณ์สู้รบล่าสุดนั้น เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการจังหวัดลูฮันสก์ เผยว่า การต่อสู้ในเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ยังดำเนินต่อไปเมื่อวานนี้ โดยกองกำลังรัสเซียสามารถยืดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองไว้ได้ แต่ทหารยูเครนยังคงควบคุมนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานเคมีอาซอตได้อยู่ ที่ซึ่งพลเมืองหลายร้อยคนใช้เป็นที่กำบังและหลบซ่อนจากกระสุนปืนและปืนใหญ่
“พลเมืองประมาณ 500 คนยังคงอยู่ในเขตพื้นที่โรงงานอาซอตในเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ โดยจำนวนนี้มี 40 คนที่เป็นเด็ก บางช่วงเวลาทหารสามารถอพยพบางคนออกไปได้” ไกไดกล่าว
แต่ผู้ว่าลูฮันสก์แสดงความกังวลว่า รัสเซียได้ทำลายสะพานข้ามแม่น้ำซีเวียร์สกีโดเนตส์ ที่เชื่อมระหว่างเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์กับเมืองแฝด ลิซิชานสก์ ทำให้เวลานี้มีเพียงสะพานแห่งเดียวจากทั้งหมด 3 แห่งที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งถ้ารัสเซียทำลายเพิ่มจะส่งผลให้เมืองถูกตัดขาดอย่างแท้จริง โดยจะไม่สามารถเดินทางออกจากเซียเวียโรโดเนตสก์ด้วยยานพาหนะได้
ขณะเดียวกันไกไดยังกังวลด้วยว่าเวลานี้ยังไม่มีข้อตกลงหยุดยิง รวมถึงข้อตกลงจัดตั้งเส้นทางอพยพพลเมืองเพื่อมนุษยธรรม
ภาพ: Marcus Yam / Los Angeles Times via Getty Images
อ้างอิง:
