สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อวานนี้ (31 มีนาคม) ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ลงนามกฤษฎีกา สั่งให้เกณฑ์ทหารใหม่จำนวน 134,500 นายเข้าสู่กองทัพ โดยเป็นส่วนหนึ่งในแผนเกณฑ์ทหารประจำปีช่วงฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 15 กรกฎาคม ซึ่งจะมีผลสำหรับชายชาวรัสเซียอายุระหว่าง 18-27 ปี ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันว่า การเกณฑ์ทหารใหม่นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
คำสั่งเกณฑ์ทหารใหม่ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่การทำสงครามบุกยูเครนของรัสเซียยืดเยื้อมานานกว่า 5 สัปดาห์ โดยเมื่อวันอังคาร (29 มีนาคม) เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันว่า จะไม่มีการส่งทหารเกณฑ์ใหม่ไปยังพื้นที่สู้รบ ซึ่งกองทัพรัสเซียจะส่งทหารเกณฑ์ไปประจำการในฐานทัพที่กำหนดไว้ เริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม
“บุคลากรทางทหารส่วนใหญ่จะเข้ารับการฝึกอบรมอย่างมืออาชีพในศูนย์ฝึกอบรมเป็นเวลา 3-5 เดือน ผมขอเน้นว่า จะไม่ส่งทหารเกณฑ์ไปยังจุดปะทะใดๆ” ชอยกูกล่าว
สำหรับการส่งทหารเกณฑ์เข้าร่วมรบในสงครามถือเป็นประเด็นละเอียดอ่อน โดยเมื่อวันที่ 9 มีนาคม กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกมายอมรับว่า มีทหารเกณฑ์บางส่วนถูกส่งไปยังยูเครน ซึ่งขัดแย้งกับท่าทีของปูตินในช่วงแรกที่ปฏิเสธหลายครั้งว่ามีแต่ทหารอาชีพเท่านั้นที่ถูกส่งไปร่วมรบ
ขณะที่โฆษกรัฐบาลเครมลินเปิดเผยในภายหลังว่า ปูตินได้สั่งให้สอบสวนและลงโทษเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องที่ฝ่าฝืนคำสั่งส่งทหารเกณฑ์ไปยูเครนแล้ว
อย่างไรก็ตาม มิคาอิล เบนยาช ทนายความของสมาชิกกองกำลังรักษาดินแดนรัสเซียหลายคนที่ปฏิเสธคำสั่งไปร่วมรบในยูเครน เปิดเผยว่า ภายใต้กฎหมายของรัสเซีย ทหารเกณฑ์ทุกนายสามารถถูกส่งไปสู้รบได้หลังจากผ่านการฝึกมาแล้วเป็นเวลาหลายเดือน
ภาพ: Photo by Wang Xiujun / China News Service via Getty Images
อ้างอิง:
