วานนี้ (15 พฤษภาคม) เจ้าหน้าที่ของรัสเซียได้ออกมากล่าวประณามการแสดงความคิดเห็นของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ที่ระบุว่า ‘มอสโกกำลังมีท่าทีที่ยอมจำนนต่อจีน’
โดยก่อนหน้านี้มาครงได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ l’Opinion ของฝรั่งเศส โดยเขาได้กล่าวประณามว่า รัสเซียได้กลายเป็นประเทศโดดเดี่ยวหลังจากที่ตัดสินใจเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022
มาครงกล่าวว่า รัสเซียเริ่มมีท่าทีที่ยอมจำนนต่อจีนมากขึ้น และสูญเสียการเข้าถึงทะเลบอลติกที่มีความสำคัญต่อประเทศ เนื่องจากสงครามที่เกิดขึ้นได้เร่งให้สวีเดนและฟินแลนด์ตัดสินใจเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ซึ่งเป็นภาพที่หากย้อนกลับไปเมื่อสัก 2 ปีก่อน ก็คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า คำกล่าวของมาครงดูเหมือนว่าจะมุ่งเน้นไปถึงการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมที่กรุงมอสโก โดยทั้งสองฝ่ายกล่าวว่ารัสเซียและจีนได้กระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ พร้อมกล่าวยกย่อง ‘ยุคใหม่’ ของความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดน
เพื่อตอบโต้ต่อกรณีดังกล่าว ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ได้ออกมากล่าวว่า ความสัมพันธ์ของรัสเซียกับจีนเป็นเพียงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ แต่ไม่ใช่ในลักษณะของการพึ่งพาอาศัยกัน
ด้าน อเล็กซานเดอร์ กรุชโค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวว่า ฝรั่งเศสหมกมุ่นอยู่กับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นของรัสเซียกับจีน และการเปลี่ยนแปลงที่ส่อแววเกิดขึ้นกับระเบียบโลก
“ดูเหมือนว่าชาติตะวันตกจะหวาดกลัวการสร้างระบบความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่แท้จริง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจีน” กรุชโคกล่าว “ท่ามกลางภูมิทัศน์ของโลกนี้ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มาครง พร้อมด้วยผู้นำของชาติตะวันตกคนอื่นๆ จะต้องยอมรับกับความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง เสมอภาค และเคารพซึ่งกันและกันระหว่างมอสโกและปักกิ่ง”
แฟ้มภาพ: Mustafa Yalcin / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: