วานนี้ (14 ธันวาคม) ทางการรัสเซียเปิดเผยว่า ‘จะไม่มีการหยุดยิงในช่วงคริสต์มาส’ ท่ามกลางสงครามในยูเครนที่กินเวลาล่วงเลยมาเกือบ 10 เดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม สื่อต่างประเทศมองว่า การที่รัสเซียปล่อยตัวนักโทษหลายสิบคนรวมถึงชาวอเมริกัน บ่งชี้ให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายยังคงมีการสื่อสารกันอยู่
ปัจจุบันทั้งฝ่ายรัสเซียและยูเครนยังไม่ยอมที่จะเปิดช่องเจรจาเพื่อยุติการสู้รบ ขณะที่การต่อสู้ยังคงโหมกระหน่ำในพื้นที่ทางตะวันออกและทางตอนใต้ของยูเครน อีกทั้งรัสเซียยังได้โจมตีกรุงเคียฟด้วยเมื่อวานนี้ สงครามที่ลากยาวมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วนับหมื่นราย ขณะที่ประชาชนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่นฐาน หลายเมืองของยูเครนกลายเป็นซากปรักหักพัง
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวในการปราศรัยทางวิดีโอช่วงเย็นวานนี้ว่า การสู้รบในเขตแนวหน้านั้นยังคงดุเดือด ขณะที่รัสเซียกระหน่ำยิงปืนใหญ่ทำลายหลายเมืองทางตะวันออกของประเทศ พร้อมกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่สัปดาห์นี้ รัสเซียควรเริ่มถอนกำลังออกจากพื้นที่ก่อนจะถึงวันคริสต์มาส เพื่อเป็นก้าวแรกสู่การเริ่มต้นยุติความขัดแย้งของสงครามที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
อย่างไรก็ตาม รัสเซียได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวทันที โดยระบุว่า ยูเครนต้องยอมรับการสูญเสียดินแดนให้กับรัสเซีย ก่อนที่ฝ่ายรัสเซียจะยอมดำเนินการใดๆ เพื่อยุติสงคราม
ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้น แต่มีรายงานว่ารัสเซียได้ทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวนักโทษหลายร้อยคนเมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงยังมีการเจรจาเพื่อให้รัสเซียกลับมาส่งออกวัตถุดิบสำหรับผลิตปุ๋ยและมีการขยายขอบเขตของข้อตกลงด้านธัญพืช ซึ่งบ่งชี้ว่าทั้งสองฝ่ายยังมีการติดต่อหารือกันอยู่บ้างในบางระดับ
จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ระบุว่า มีชาวอเมริกันได้รับการปล่อยตัวด้วย แต่ขอไม่แจ้งชื่อเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า สงครามคงไม่สิ้นสุดในปีนี้ เพราะการต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายยังคงดุเดือด
ภาพ: Olena Znak / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: