วานนี้ (9 มีนาคม) รัสเซียกระหน่ำยิงขีปนาวุธ 81 ลูกใส่ยูเครนขณะที่ชาวเมืองกำลังหลับใหล ส่งผลให้มีพลเรือนอย่างน้อย 9 รายเสียชีวิต และทำให้เกิดไฟฟ้าดับหลายแห่ง รวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย โดยทางการยูเครนระบุว่า ในการโจมตีระลอกใหม่นี้รัสเซียได้ใช้มิสไซล์ร่อนความเร็วเหนือเสียง Kinzhal ซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธราคาแพงที่สุดของรัสเซีย 6 ลูกด้วยกัน
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน กล่าวว่า “รัสเซียทำได้เพียงแค่ข่มขวัญพลเรือนเท่านั้น นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาทำได้ แต่มันจะไม่ช่วยให้พวกเขาชนะ พวกเขาไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่ตนเองทำ” พร้อมระบุด้วยว่า การโจมตีระลอกใหม่นี้ได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานและอาคารที่พักอาศัยใน 10 ภูมิภาคของประเทศ
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียได้ดำเนินการ ‘โจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่’ เพื่อเป็นการตอบโต้การโจมตีข้ามพรมแดนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างว่าได้โจมตีเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ทั้งหมด พร้อมทำลายฐานโดรน ทางรถไฟ และสร้างความเสียหายแก่โรงงานที่ทำหน้าที่สร้างและซ่อมแซมอาวุธ
สำหรับพลเรือนที่เสียชีวิตทั้ง 9 รายกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ เช่น เมืองลวิฟ เมืองดนิโปร และเมืองเคอร์ซอน
รัสเซียระบุว่า การโจมตีดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดขีดความสามารถในการสู้รบของยูเครน ขณะที่ฝั่งยูเครนโต้ว่า การโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์ทางการทหาร แต่พยายามที่จะทำร้ายและข่มขู่พลเรือน ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมสงคราม โดยคืนวานนี้กรุงเคียฟได้เปิดสัญญาณแจ้งเตือนภัยนานถึง 7 ชั่วโมง ถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดตลอดช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาที่รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ
ทางการรัสเซียยืนยันว่า ในปฏิบัติการวานนี้มีการใช้มิสไซล์ Kinzhal ด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ของยูเครนยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ประเทศเผชิญกับอาวุธดังกล่าวจำนวนมากขนาดนี้ ซึ่งยูเครนไม่สามารถยิงสกัดได้เลย ขณะที่มีรายงานว่ารัสเซียอาจมีมิสไซล์ Kinzhal จำนวนไม่มากนัก โดยเป็นอาวุธที่สามารถบินได้เร็วกว่าความเร็วเสียงหลายเท่า และสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ด้วย โดยมีพิสัยการยิงไกลกว่า 2,000 กิโลเมตร
ส่วนทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ระบุว่า การโจมตีดังกล่าว ‘สร้างความเสียหาย’ อย่างหนัก และสหรัฐอเมริกาจะยังคงเดินหน้ามอบอาวุธที่ช่วยเสริมขีดความสามารถในการป้องกันทางอากาศให้กับยูเครนต่อไป
ภาพ: Ruslan Kaniuka / Ukrinform/Future Publishing via Getty Images
อ้างอิง:
