รัสเซียยิงขีปนาวุธครั้งใหญ่ถล่มหมู่บ้านและเมืองต่างๆ ทั่วยูเครนเมื่อวานนี้ (29 ธันวาคม) สร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน และคร่าชีวิตชาวยูเครนอย่างน้อย 3 ราย ขณะที่เคียฟระบุว่า การโจมตีครั้งล่าสุดนี้เป็นหนึ่งในการยิงขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดของมอสโกนับตั้งแต่สงครามอุบัติขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ก่อนหน้านี้ ทางการยูเครนได้เตือนประชาชนแล้วว่า รัสเซียกำลังเตรียมโจมตีโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนทุกวิถีทาง เพื่อทำให้ประเทศอยู่ในความมืดมิด และทำลายความหวังของชาวยูเครนที่จะฉลองปีใหม่และเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งสำหรับชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ในยูเครนนั้นตรงกับวันที่ 7 มกราคม
“ในช่วงวันสุดท้ายของปี ผู้ก่อการร้ายรัสเซียได้ก่อเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการรุกรานอย่างเต็มรูปแบบ” กระทรวงกลาโหมยูเครนระบุในแถลงการณ์บน Twitter เมื่อวันพฤหัสบดี “พวกเขาฝันว่าชาวยูเครนจะฉลองปีใหม่ท่ามกลางความมืดมิดและหนาวเย็น แต่พวกเขาไม่สามารถเอาชนะชาวยูเครนได้”
หน่วยบริการฉุกเฉินแห่งชาติของยูเครนเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน และบาดเจ็บ 7 คนจากการโจมตีทั่วประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า การโจมตีของรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดีพุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าของยูเครน ส่งผลให้ไฟฟ้าดับในหลายภูมิภาค โดยขณะนี้ทีมวิศวกรกำลังทำงานแข่งกับเวลาเพื่อกลับมาให้บริการไฟฟ้าแก่ประชาชน ในขณะที่วันหยุดปีใหม่ใกล้จะมาถึงในสุดสัปดาห์นี้
เฮอร์มัน ฮาลุชเชนโก รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของยูเครน กล่าวว่า ลวีฟ เคียฟ และโอเดสซา ได้รับผลกระทบหนักสุดจากการโจมตีดังกล่าว และต้องมีการดับไฟฟ้าฉุกเฉินในพื้นที่เหล่านี้เพื่อป้องกันความเสียหายจากไฟฟ้าลัดวงจร
วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เปิดเผยว่า 40% ของชาวเคียฟไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่เสริมว่านั่นเป็นเพราะมาตรการรักษาความปลอดภัยในระหว่างที่มีสัญญาณเตือนการโจมตีทางอากาศ และขณะนี้ทีมวิศวกรกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้ประชาชนกลับมามีไฟฟ้าใช้อีกครั้ง
ด้าน เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า มอสโกจะไม่เจรจากับเคียฟตามสูตรสันติภาพ 10 ข้อที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนเสนอ ซึ่งรวมถึงการถอนทหารรัสเซียออกจากดินแดนทั้งหมดของยูเครน การสร้างความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ ความมั่นคงทางอาหาร การจัดตั้งศาลพิเศษสำหรับพิจารณาคดีอาชญากรสงคราม และสนธิสัญญาสันติภาพขั้นสุดท้ายกับมอสโก
ลาฟรอฟกล่าวกับสำนักข่าว RIA Novosti ของทางการรัสเซียว่า เซเลนสกีกำลังสร้างภาพลวงตา โดยเชื่อว่าด้วยความช่วยเหลือของชาติตะวันตก เขาจะสามารถบังคับให้รัสเซียถอนตัวออกจากไครเมีย ตลอดจนพื้นที่ยึดครองในภูมิภาคดอนบาส ซาปอริซเซีย และเคอร์ซอนของยูเครน รวมทั้งนำรัสเซียขึ้นศาลระหว่างประเทศและจ่ายค่าชดเชย “เราจะไม่พูดคุยกับใครก็ตามภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว” ลาฟรอฟกล่าว
อย่างไรก็ตาม รมว.ต่างประเทศรัสเซียเน้นย้ำว่า รัสเซียเปิดกว้างสำหรับการแก้ปัญหาทางการทูต ซึ่งเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ว่า เขาต้องการให้สงครามยุติลง ในขณะที่เคียฟและชาติตะวันตกมองว่า คำกล่าวอ้างของปูตินเป็นกลอุบาย
ภาพ: Maxym Marusenko / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: