เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียได้ยิงมิสไซล์ลูกหนึ่งตกลงมากลางตลาดที่มีคนพลุกพล่านในเมืองคอสเตียนตีนิฟกา (Kostiantynivka) แคว้นโดเนตสก์ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (6 กันยายน) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คนด้วยกัน และมีเหยื่อที่เป็นเด็กด้วย 1 คน ขณะยอดผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 32 คน นับเป็นหนึ่งในเหตุโจมตีที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในรอบหลายเดือนมานี้
แม้ก่อนหน้านี้เราจะได้เห็นกรณีที่มิสไซล์ของรัสเซียตกลงมาในเขตที่อยู่อาศัยของพลเรือนอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็แทบไม่มีครั้งใดที่จำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจะพุ่งสูงเช่นนี้ โดยครั้งที่สร้างความเสียหายรุนแรงล่าสุดคือเมื่อเดือนเมษายน หลังรัสเซียโจมตีอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองอูมาน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 23 คนด้วยกัน และอีกครั้งหนึ่งคือเหตุโจมตีในเมืองดนีโปรเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 40 คน
สำหรับเมืองคอสเตียนตีนิฟกานั้นมีจุดภูมิศาสตร์ตั้งอยู่ใกล้กับเขตแนวหน้าของสมรภูมิรบเมืองบัคมุต และมักมีทหารเข้าไปประจำการอยู่เนืองแน่น
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ได้เปิดเผยภาพฟุตเทจของเหตุการณ์รุนแรงดังกล่าว ซึ่งเผยให้เห็นประชาชนที่เดินอยู่ตามปกติบนถนนในตลาด ก่อนที่จะมีมิสไซล์ตกลงมาและระเบิดรุนแรงจนกระจกในอาคารใกล้เคียงแตกเป็นเสี่ยงๆ เกิดเพลิงลุกไหม้ในบริเวณดังกล่าว ขณะที่ผู้คนวิ่งหนีตายกันอลหม่าน
นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโออีกหลายตัวที่ถูกปล่อยออกมา เผยให้เห็นภาพที่น่าสลดใจ ทั้งคราบเลือดที่เปื้อนกระจายอยู่บริเวณร้านขายยา รถยนต์ที่เกิดไฟลุกไหม้ อาคารหลายหลังพังเสียหาย รวมถึงภาพของเจ้าหน้าที่ที่หามศพผู้เสียชีวิตออกไป
นายกรัฐมนตรียูเครน เดนิส ชไมฮาล (Denys Shmyhal) เปิดเผยผ่านทาง Telegram ว่า “กองทหารรัสเซียเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งเราจะไม่ให้อภัย และพวกเขาจะไม่มีทางได้อยู่อย่างสงบสุขแน่”
ด้านเซเลนสกีได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์ม X หรือชื่อเก่าคือ Twitter ว่า “หากมีใครสักคนบนโลกนี้ที่พยายามจะประนีประนอมกับรัสเซีย แปลว่าเขาหลับหูหลับตาไม่สนใจความจริงตรงหน้า นี่คือความเลวร้ายอย่างแท้จริง”
ภาพ: Andriy Reznikov / Suspilne Ukraine / JSC “UA:PBC” / Global Images Ukraine via Getty Images
อ้างอิง: