×

เรืองไกรร้อง กกต. ตรวจสอบ พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลมีเหตุสิ้นสภาพไปแล้วหรือไม่

โดย THE STANDARD TEAM
18.08.2024
  • LOADING...

วันนี้ (18 สิงหาคม) เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ช่วงนี้กำลังรวบรวมเรื่องนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ รัฐธรรมนูญหลายมาตรา ข้อเท็จจริงต่างๆ รวมทั้งมาตรฐานทางจริยธรรมด้วย รวมทั้งกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา มีประเด็นที่ต้องขอให้ กกต. ตรวจสอบว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลที่เปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน และมี สส. ในนามพรรคประชาชนเข้าไปร่วมเป็นองค์ประชุมในวันดังกล่าวนั้น หากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลมีเหตุสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองไปแล้ว การเลือกนายกรัฐมนตรีจะชอบหรือไม่ จะเป็นโมฆะหรือไม่

 

เรืองไกรกล่าวว่า ในวันนี้ตนจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบ ดังนี้

 

1. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตราที่เกี่ยวข้อง มีดังนี้

 

มาตรา 33 ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนพรรคการเมืองต้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้

 

(1) ดำเนินการให้มีจำนวนสมาชิกไม่น้อยกว่า 5,000 คน และต้องเพิ่มจำนวนสมาชิกให้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คนภายใน 4 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียน

 

(2) จัดให้มีสาขาพรรคการเมืองในแต่ละภาคตามบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัดที่คณะกรรมการกำหนดอย่างน้อยภาคละ 1 สาขา โดยสาขาพรรคการเมืองแต่ละสาขาต้องมีสมาชิกที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของสาขานั้นตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป

 

มาตรา 90 พรรคการเมืองสิ้นสุดลงเมื่อ

 

(1) สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองตามมาตรา 91

 

มาตรา 91 พรรคการเมืองย่อมสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองเมื่อ

 

(1) ไม่แก้ไขข้อบังคับให้ถูกต้องหรือครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดตามมาตรา 17 วรรคสาม หรือไม่สามารถดำเนินการตามมาตรา 33 (1) หรือ (2) ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

 

มาตรา 141/1 เมื่อมีการประกาศพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ก่อนที่ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มีผลใช้บังคับ พรรคการเมืองใดประสงค์จะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในเรื่องดังต่อไปนี้ ให้แจ้งให้คณะกรรมการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วัน และเมื่อได้แจ้งเรื่องดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าได้รับอนุญาตจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้อง

 

(1) จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด พร้อมทั้งแจ้งรายการตามมาตรา 33 หรือมาตรา 35

 

2. เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์มติชน หัวข้อ ‘กกต. คอนเฟิร์ม ‘ถิ่นกาขาว’ ตั้งสาขาครบ 4 ภาคใน 1 ปี ตามกฎหมายกำหนดแล้ว แต่ยังไม่อัปเดตระบบ’ ลงข่าวไว้ส่วนหนึ่งว่า

 

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี จะยื่น กกต. ยุบพรรคประชาชน เนื่องจากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชนจัดตั้งสาขาพรรคไม่ครบ 4 สาขา ว่า ตามกฎหมายพรรคการเมือง ทุกกิจกรรมของพรรคจะสมบูรณ์ทันทีเมื่อพรรคได้ดำเนินการ แต่เมื่อยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว หากพบว่าดำเนินการไม่ถูกต้องก็จะมีผลย้อนหลังให้การกระทำนั้นเสียไป ซึ่งในกรณีการจัดตั้งสาขาพรรคของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลนั้นพบว่า 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้มีการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคในส่วนที่ขาดอยู่จนครบ และระยะเวลาการจัดตั้งก็อยู่ภายใน 1 ปีที่กฎหมายกำหนด ขณะนี้มีการจะส่งเรื่องมาให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบตามขั้นตอน

 

3. กรณีตามข่าวที่ระบุว่า “…ซึ่งในกรณีการจัดตั้งสาขาพรรคของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลนั้นพบว่า 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้มีการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคในส่วนที่ขาดอยู่จนครบ และระยะเวลาการจัดตั้งก็อยู่ภายใน 1 ปีที่กฎหมายกำหนด…” นั้น อาจจะคลาดเคลื่อนไปจากมาตรา 33 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ทั้งนี้ เทียบเคียงกรณีตามประกาศ กกต. เรื่องพรรคสยามพลสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง

 

4. ตามประกาศ กกต. เรื่อง พรรคสยามพลสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2567 (ลงราชกิจจานุเบกษา วันที่ 25 มกราคม 2567) มีความว่า

 

ตามที่นายทะเบียนพรรคการเมืองโดยความเห็นชอบของ กกต. ได้มีประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2565 เรื่อง การจดทะเบียนจัดตั้งพรรคสยามพล ตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นั้น

 

นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 พรรคสยามพลไม่สามารถดำเนินการให้มีจำนวนสมาชิกไม่น้อยกว่า 5,000 คน และจัดให้มีสาขาพรรคการเมืองในแต่ละภาคตามบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัดที่ กกต. กำหนดอย่างน้อยภาคละ 1 สาขา ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดทะเบียน จึงเป็นเหตุให้สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (1) และวรรคสอง แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

 

กกต. จึงประกาศให้พรรคสยามพลสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (1) และวรรคสอง แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

5. จากการตรวจสอบในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา พบประกาศของนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ที่ลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2562 ที่ระบุไว้บางส่วน ดังนี้

 

ตามที่มาตรา 140 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 53/2560 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2560 กำหนดให้พรรคการเมืองที่จัดตั้ง หรือเป็นพรรคการเมืองตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 และยังดำรงอยู่ในวันก่อนวันที่ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ใช้บังคับเป็นพรรคการเมืองตาม พรป. นั้น บัดนี้หัวหน้าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลได้มีหนังสือแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ตามมาตรา 38 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 กรณีพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลได้ดำเนินการจัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค จัดทำคำประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองนโยบายของพรรค และการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลชุดใหม่ ซึ่งพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลได้ดำเนินการตามมาตรา 141/1 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 13/2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ลงวันที่ 14 กันยายน 2561 ดังนี้

 

  1. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค คำประกาศอุดมการณ์ และนโยบายของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล พ.ศ. 2561 ดังนี้

 

ข้อบังคับพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล พ.ศ. 2561

 

6. ข้อบังคับพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล พ.ศ. 2561 ข้อ 28 ระบุว่า

 

ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีประกาศ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ในราชกิจจานุเบกษา ต้องดำเนินการให้มีสาขาพรรคในแต่ละภาคตามบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัดที่ กกต. กำหนดอย่างน้อยภาคละ 1 สาขา โดยสาขาพรรคแต่ละสาขาต้องมีสมาชิกพรรคที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือเขตจังหวัดตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป

 

7. กรณีตามข่าวของเว็บไซต์มติชน ตามข้อ 2. และ 3. ที่ระบุว่า “…ซึ่งในกรณีการจัดตั้งสาขาพรรคของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลนั้นพบว่า 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้มีการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคในส่วนที่ขาดอยู่จนครบ และระยะเวลาการจัดตั้งก็อยู่ภายใน 1 ปีที่กฎหมายกำหนด…” นั้น อาจไม่สอดคล้องกับช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนดบังคับไว้ เพราะหากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลเพิ่งจัดตั้งสาขาของพรรคเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2567 ทั้งที่มีการดำเนินการเกี่ยวกับพรรคการเมืองไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ดังนั้นการที่นายทะเบียนพรรคการเมืองให้ข่าวว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลเพิ่งมาตั้งสาขาพรรคเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2567 กรณีนี้ย่อมมีเหตุให้พิจารณาว่าการตั้งสาขาพรรคเมื่อต้นสิงหาคม 2567 นั้นเกินกำหนดระยะเวลาภายใน 1 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนพรรคการเมืองกำหนดระยะเวลา ตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หรือไม่ และเป็นเหตุให้พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลต้องสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (1) และวรรคสอง ไปแล้วหรือไม่

 

8. ดังนั้นหากเทียบกับกรณีของพรรคสยามพลที่สิ้นสภาพตามประกาศ กกต. ดังกล่าว จึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบต่อไปว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลมีเหตุต้องสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (1) และวรรคสอง แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 แล้วหรือไม่

 

9. หากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลมีเหตุต้องสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (1) และวรรคสอง ปัญหาการเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชนจะชอบหรือไม่ และบรรดา สส. ที่เข้าไปทำหน้าที่เป็นองค์ประชุมในนามพรรคประชาชน ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล เพื่อโหวตเลือกนายกฯ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 จะชอบหรือไม่ และผลโหวตให้บุคคลเป็นนายกฯ จะตกเป็นโมฆะหรือไม่

 

เรืองไกรสรุปในท้ายหนังสือว่า จึงเรียนมาเพื่อขอให้ กกต. ตรวจสอบว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (1) และวรรคสอง แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 แล้วหรือไม่ และส่งเรื่องต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกนายกฯ ด้วยว่าชอบหรือไม่

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X