วันนี้ (14 ตุลาคม) พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยในสถานการณ์การชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองในวันนี้ หลังผู้ชุมนุมคณะราษฎรประกาศเปลี่ยนเวลารวมตัวกันในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยตำรวจจัดวางกำลังควบคุมฝูงชน 99 กองร้อย (14,850 นาย) เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยตามขั้นตอนปฏิบัติ
นอกจากนี้ พ.ต.อ. กฤษณะ ยืนยันว่า ตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง พร้อมขอความร่วมมือผู้ชุมนุมทุกกลุ่มที่มีการรวมตัววันนี้ รวมไปถึงผู้เห็นต่าง ให้ศึกษากฎหมายและไม่กระทำการใดที่ละเมิดกฎหมายหรือสิทธิของผู้อื่น และห้ามชุมนุมค้างคืน ซึ่งหากทำผิดกฎหมาย ตำรวจก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนโดยไม่คำนึงว่าเป็นผู้ชุมนุมกลุ่มใด
ทั้งนี้ ยืนยันว่าตำรวจจะดูแลเรื่องการข่าวป้องกันไม่ให้มีกลุ่มมือที่สามเข้ามาแทรกแซง และป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมกลุ่มที่มีความเห็นต่างกันมาเผชิญหน้ากัน
ส่วนกรณีการจับกุมแกนนำ 21 รายของคณะราษฎรเมื่อวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 10 ข้อกล่าวหาคือ
- ร่วมกันมั่วสุม 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
- ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
- ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของหรือโดยการกระทำด้วยประการอื่นใด
- ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร พ.ร.บ. การจราจรทางบก
- ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆ บนถนน ตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535
- ร่วมกันขูด กะเทาะ ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใดๆ บนถนน ตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535
- ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ
- ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
- ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายไว้ให้ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวตามสมควร
- ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
โดยตำรวจจะคุมตัวไปยื่นฝากขังต่อศาลที่มีอำนาจแต่ละแห่ง ส่วนจะค้านประกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน
พ.ต.อ. กฤษณะ ย้ำว่า การจับกุมเป็นไปตามขั้นตอน หลังมีการเตือนและเจรจาแล้วแต่ไม่เป็นผล อีกทั้งเป็นความผิดซึ่งหน้า ตำรวจสามารถใช้อำนาจตามกฎหมายควบคุมตัวได้ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลายกระทบสิทธิประชาชนคนอื่น ย้ำตำรวจไม่ได้มุ่งใช้กฎหมายจับกุมอย่างเดียว
ส่วนการชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อค่ำวานนี้ ได้ให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน รวบรวมพยานหลักฐานจากการบันทึกภาพวิดีโอต่างๆ ไว้แล้ว แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใด
ส่วนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ตำรวจไม่มีการปิดการจราจรเส้นทางใด แต่ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง 5 เส้นทาง ได้แก่
- ถนนราชดำเนินกลาง
- ถนนดินสอ
- ถนนหลานหลวง
- ถนนตะนาว
- สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล