วันนี้ (13 กุมภาพันธ์) พล.ร.อ. จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานเปิดการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2568 ที่ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ผบ.ทร. ระบุว่า การฝึกกองทัพเรือประจำปี 2568 เป็นการทดสอบขีดความสามารถให้ตรงตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์และภัยคุกคามทุกรูปแบบ เพื่อรองรับแผนป้องกันประเทศ ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนจนถึงการใช้กำลัง
รวมทั้งฝึกกำลังพลให้คุ้นเคยกับการใช้เครื่องมือ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชน และแก้ไขสถานการณ์ภัยพิบัติ เพื่อสะท้อนว่ายุทโธปกรณ์ที่มีอยู่สามารถใช้งานได้ทั้งการรบและช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ยังมีหัวข้อการฝึกในเรื่องสงครามไซเบอร์ เน้นตรวจสอบช่องโหว่การคุกคามทางไซเบอร์ และปฏิบัติการทางรุกซึ่งต้องฝึกทุกปี และเพิ่มเทคนิคใหม่รับมือการคุกคามทางไซเบอร์ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบตลอดเวลา เนื่องจากทุกหน่วยต้องใช้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่ขอให้มั่นใจว่า หน่วยกำลังรบถูกเจาะได้ยาก เพราะเป็นเครือข่ายปิด แต่ก็ไม่ได้วางใจต้องฝึกเพื่อปิดช่องโหว่
ยุทโธปกรณ์มีข้อจำกัด แต่ต้องตามเทรนด์ให้ทัน
ผบ.ทร. ยังย้ำถึงข้อจำกัดด้านยุทโธปกรณ์ที่ใช้งานมานานว่า การใช้งานเป็นไปตามระยะเวลา แต่ก็ต้องตามเทรนด์เทคโนโลยีให้ทัน เช่น การใช้โดรนตรวจการณ์และโจมตี ซึ่งการฝึกกองทัพเรือในปีนี้ได้นำโดรนรุ่นใหม่มาทดสอบการใช้งาน และยานเกราะล้อยางที่จัดหาเข้ามาใหม่จากเอกชนในประเทศอีก 7 คัน เพื่อใช้ในภารกิจยกพลขึ้นบกและช่วยเหลือประชาชน
เดินหน้าจัดหาเรือฟริเกต-เรือดำน้ำ เสริมเขี้ยวเล็บ
ส่วนการจัดซื้อเรือฟริเกต 2 ลำนั้น ผบ.ทร. ระบุว่า อยู่ในขั้นตอนการของบประมาณ และให้บริษัทผู้ผลิตเสนอแบบเพื่อนำมาพิจารณา โดยต้องคำนึงถึงการชดเชยตอบแทนหรือ Offset Policy และจะต้องมีสัดส่วนการต่อเรือภายในประเทศด้วย
ส่วนโครงการจัดหาเรือดำน้ำ Yuan Class จากจีน ยืนยันว่ากองทัพเรือมีความชัดเจนที่ต้องการทำให้สัญญาจบ โดยการเสนอเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงต้องรอขั้นตอนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะนำเข้าพิจารณาในครม. ซึ่งเกินจากอำนาจการตัดสินใจของกองทัพเรือ
หนุนรัฐบาลแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์-ป้องกันชายแดนจันทบุรี ตราด
ผบ.ทร. ยังระบุถึงการดูแลสถานการณ์ชายแดนและปัญหาเครือข่ายค้ามนุษย์ รวมทั้งคาสิโนบริเวณพื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด ว่าเป็นไปตามมาตรการ Seal Stop Safe ของรัฐบาล ซึ่งร่วมมือกันหลายเรื่อง ทั้งยาเสพติด ค้ามนุษย์ รวมไปถึงคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ทั้งนี้ รัฐบาลให้นโยบายมาแล้ว โดยจะต้องผนึกกำลังของทหาร ตำรวจ ภาคประชาชน รวมทั้งฝ่ายปกครอง หรือหน่วยในพื้นที่ โดยกองทัพเรือจะสนับสนุนเครื่องมือให้หน่วยปฏิบัติอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น และเพิ่มเทคโนโลยีในการปฏิบัติให้ครอบคลุม