ถึงแม้จะตกรอบตามทีมชาติโปรตุเกสที่ไม่สามารถผ่านด่านอุรุกวัยในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลกได้ แต่ความเป็น คริสเตียโน โรนัลโด ทุกความเคลื่อนไหวของเขานั้นทรงพลังมากพอที่จะเขย่าโลกลูกหนังได้อย่างไม่ยาก
โดยเฉพาะข่าวคราวเรื่องการย้ายทีม ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของนักฟุตบอลอาชีพ และสำหรับนักเตะระดับเขาแล้ว ข่าวนี้สามารถกลบกระแสของฟุตบอลโลกที่กำลังจะลงสนามในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในค่ำคืนนี้ได้อย่างสนิท
เพราะข่าวที่ออกมานั้น ทิศทางของข่าวค่อนข้างชัดเจนว่า โรนัลโด จะยุติชีวิตการเล่น 9 ปีกับ เรอัล มาดริด โดยมี ยูเวนตุส ทีมอันดับ 1 ของอิตาลีเป็นว่าที่สโมสรใหม่ของเขา
กระแสข่าวเริ่มจากรายงานข่าวระดับข่าวลีดของสื่อใหญ่อย่าง BBC ว่าทีม ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด พิจารณาข้อเสนอจำนวน 100 ล้านยูโรจากยูเวนตุส ที่ต้องการได้ตัวสตาร์หมายเลขหนึ่งแห่งซานติอาโก เบอร์นาบิว ไปร่วมทีม
ก่อนที่จะเริ่มมีข่าวไหลตามมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการนัดพบกันระหว่าง ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด กับ ฮอร์เก เมนเดส ซูเปอร์เอเจนต์คู่บุญของโรนัลโด ที่ทำหน้าที่ในการเจรจาต้าอ้วยให้
ข่าวนี้เร็วและแรงมากพอที่จะทำให้โลกลูกหนังสั่น เช่นกันกับความรู้สึกในใจของแฟน Los blancos ที่ทำตัวกันแทบไม่ถูก ตั้งหลักกันแทบไม่ทัน เพราะมันมีโอกาสที่นักเตะหมายเลขหนึ่งของพวกเขา นักเตะคนที่ทำผลงานได้เหนือกว่าสุดยอดตำนานของสโมสรทุกคนในอดีต ไล่ตั้งแต่ อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน, เฟเรนซ์ ปุสกัส, ฮูโก ซานเชซ, ราอูล กอนซาเลซ, โรนัลโด (ดั้งเดิม) หรือ ซีเนดีน ซีดาน จะต้องบอกลากันจริงๆ
บิดเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปในเกมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังชัยชนะที่สวยหรูของ เรอัล มาดริด ที่สยบ ลิเวอร์พูล ได้ในเกมที่เคียฟ โรนัลโด ได้ให้สัมภาษณ์ในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้ยินจากปากของเขาในวันแห่งชัยชนะของทีม
“การได้อยู่กับ เรอัล มาดริด เป็นเรื่องที่ดีมากจริงๆ” โรนัลโด กล่าว ซึ่งมีการจับพิรุธกันถึงประโยคนี้ว่าเป็นการพูดราวกับว่าเขาได้ตัดสินใจที่จะอำลาทีมอย่างแน่นอนแล้ว
โดยที่ในเวลาไล่เลี่ยกัน แกเร็ธ เบล อีกหนึ่งสตาร์ของทีมก็พูดในทำนองคล้ายกัน จนกลายเป็นว่าเหมือนกับเรอัล มาดริด กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะเสียสตาร์ทั้งสองคนไปพร้อมกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือการพยายามปฏิเสธข่าว พร้อมกับการเกลี้ยกล่อมสตาร์ทั้งสอง โดยในรายของเบล นั้นกล่อมสำเร็จ แต่ในรายของโรนัลโด การเจรจาไม่ใช่เรื่องง่าย
ที่ไม่ง่ายเพราะฝ่ายบริหารของ เรอัล มาดริด เองก็ไม่คิดที่จะขยายสัญญาพร้อมเพิ่มมูลค่าในสัญญาของโรนัลโด ตามที่มีการเรียกร้องมาโดยตลอดเหมือนกัน โดยในเบื้องหลังแล้วต้องย้อนกลับไปถึงนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก ในปี 2017 ที่กรุงคาร์ดิฟฟ์ ซึ่งหลังจบเกม เปเรซ ได้ต่อสายหาโรนัลโด พร้อมยืนยันว่าเขาจะไม่ได้รับสัญญาใหม่ในแบบที่เขาต้องการอย่างแน่นอน
ท่าทีดังกล่าวของสโมสร เมื่อรวมกับเรื่องที่เขาถูกทำให้รู้สึกว่าไม่ได้รับการปกป้องในช่วงต้นฤดูกาลที่ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ (ซึ่งเป็นเพราะสโมสรเองก็ผิดหวังกับฟอร์มของ โรนัลโด ในช่วงต้นฤดูกาล และคิดไปเองว่าเขาจะไม่มีวันคืนฟอร์มเก่งได้อีกแล้ว)
รวมถึงเรื่องที่สโมสรมีข่าวว่าต้องการได้สตาร์หน้าใหม่เข้ามาเป็นผู้นำในทีม ซึ่งนักเตะรายดังกล่าวคือ เนย์มาร์ สตาร์รุ่นต่อไปคนเดียวที่ถูกมองว่าจะขึ้นมาแทนที่เขาและ ลิโอเนล เมสซี ได้
และนอกจากนี้ยังมีเรื่องของการที่เขาต้องเคลียร์ปัญหาปมภาษีกับทางการสเปน จนต้องโดนปรับเป็นเงินจำนวน 18.8 ล้านยูโร พร้อมกับรอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี
ทั้งหมดทำให้ โรนัลโด คิดว่าเขาควรถึงเวลาไป อย่างน้อยไปในช่วงที่เขายังอยู่ในสภาพที่ดี เป็นความทรงจำที่ดีของแฟนบอลเรอัล มาดริด และแฟนบอลทั่วโลก
ว่าที่สโมสรใหม่อย่าง ยูเวนตุส ถึงจะเป็นทีมเซอร์ไพรส์ เพราะตลอดมามีการเชื่อว่าหาก โรนัลโด จะย้ายทีมคงหนีไม่พ้นทีมที่มีกำลังทรัพย์และมีความปรารถนาต่อกันอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนใจ แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ไก่กา
ในเวทียุโรปแล้ว ยูเวนตุส เป็นทีมระดับ Elite เช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมายังขาดนักเตะระดับสตาร์สูงสุดอย่าง โรนัลโด ที่จะทำให้พวกเขาขึ้นไปยืนในระนาบเดียวกับ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนาได้
สำหรับ ยูเวนตุส การควักเงิน 100 ล้านยูโรเพื่อแลกตัวนักเตะวัย 33 ปี อาจดูเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลในเชิงของเกมกีฬา
แต่หากมองในแง่ที่ว่า โรนัลโด สภาพร่างกายยังถือว่ายอดเยี่ยม (ดูจากฟุตบอลโลกแล้วสภาพร่างกายของเขาดีกว่า เมสซี อยู่ไม่น้อยทั้งที่อายุมากกว่า) อย่างน้อยน่าจะเล่นในฟอร์มระดับท็อปได้ 2-3 ปีที่น่าจะยกระดับทีมได้มาก
ไม่นับเรื่องของรายได้จากการจำหน่ายเสื้อ และการทำการตลาดอื่นๆ ที่จะตามมา รวมถึงเรื่องของมูลค่าหุ้นของสโมสรที่เพิ่มขึ้น 20% นับจากสัปดาห์ที่แล้ว (29 มิ.ย. หุ้นละ 0.66 ยูโร, 5 ก.ค. หุ้นละ 0.82 ยูโร) มันเป็นผลกระทบในเชิงบวกทั้งนั้น แม้ว่าพวกเขาอาจจะต้องแลกกับการปล่อยสตาร์บางรายออกจากทีม อาทิ กอนซาโล อิกวาอิน ที่เตรียมย้ายไปเชลซี
สำหรับ โรนัลโด เมืองตูริน ถือเป็นเมืองที่ ‘พิเศษ’ สำหรับเขา และเหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ในบั้นปลายชีวิตลูกหนังของ CR7
โดยเฉพาะเขามีความทรงจำที่ดีจากในเกมล่าสุดที่มาเยือนยูเวนตุส และเอาชนะได้อย่างเด็ดขาด 3-0 โดยเกมนั้นเขาสร้างความฮือฮาด้วยการยิงลูก ‘จักรยานอากาศ’ เข้าไปอย่างมหัศจรรย์ จนได้รับเสียงปรบมือกึกก้องจากแฟนๆ ทั่วทั้งสนาม
ว่ากันว่าเสียงปรบมือกึกก้องในวันนั้นคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่เขาอยากจะเล่นให้ยูเวนตุส
คนอย่าง โรนัลโด สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดในโลกคือการได้รับการยอมรับจากใครสักคน
เรอัล มาดริด ไม่มีสิ่งนั้นให้ ในขณะที่ ยูเวนตุส มีอย่างเต็มเปี่ยม และแค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้ โรนัลโด คงจะบอกรักและบอกลาเบอร์นาบิวเพียงเท่านี้ครับ
Photo: Reuters
อ้างอิง:
- uk.businessinsider.com/the-net-worth-of-the-13-richest-footballers-in-the-world-2017-8/#2-lionel-messi-fc-barcelona-net-worth-230-million-295-million-12
- www.forbes.com/sites/bobbymcmahon/2018/07/05/cristiano-ronaldo-leaving-real-madrid-to-join-juventus-bluff-or-for-real-this-time/#1fcbb87e70a1
- www.marca.com/en/football/real-madrid/opinion/2018/07/05/5b3e02c2268e3efa2e8b45bc.html
- Forbes ประเมินตัวเลขทั้งหมดที่ ยูเวนตุส ต้องจ่ายในการเซ็นสัญญาโรนัลโด รวมทั้งหมด 450 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 15,000 ล้านบาท
- ค่าตอบแทนที่ โรนัลโด ต้องการจริงๆ จากยูเวนตุส จะเป็นการเพิ่มเพดานค่าเหนื่อยของสโมสรถึง 40% และมากกว่าค่าเฉลี่ยค่าเหนื่อยนักเตะในทีมถึง 12 เท่า
- โรนัลโด เป็นเจ้าของสถิตินักฟุตบอลค่าตัวแพงที่สุดในโลกเมื่อปี 2009 หลังย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเรอัล มาดริด
- ตลอด 9 ปีที่ผ่านมาในซานติอาโก เบอร์นาบิว โรนัลโด ทำประตูถึง 450 ประตู กับอีก 119 แอสซิสต์ ให้ เรอัล มาดริด
- โรนัลโด เป็นนักฟุตบอลที่มีรายรับมากที่สุดในโลก 321.5 ล้านเหรียญสหรัฐ