วันนี้ (23 มีนาคม) รังสิมันต์ โรม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของอธิบดีศาลอาญา รองอธิบดีศาลอาญา และผู้พิพากษาเวร จากกรณีการเพิกถอนหมายจับ อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พร้อมกับยื่นหนังสือติดตามการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ กรณีการขายโรงแรมอัลลัวร์ รีสอร์ต
รังสิมันต์กล่าวว่า วันนี้ที่ตนมายื่นหนังสือมี 2 เรื่องหลัก เรื่องแรกคือการติดตามกรณีที่มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จของอุปกิต กรณีขายอัลลัวร์ รีสอร์ต ซึ่งเป็นโรงแรมที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด โดยสงสัยว่าสัญญาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริง เป็นเพียงนิติกรรมอำพราง อีกเรื่องคือการยื่นให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบผู้พิพากษา 3 คน ได้แก่ อธิบดีศาลอาญา รองอธิบดีศาลอาญา และผู้พิพากษาเวร โดยก่อนหน้านี้ได้ยื่นต่อสำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ไปแล้ว ในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจตรง แต่ครั้งนี้เนื่องจากมีข้อมูลที่ทำให้สงสัยได้ว่า มีนายตำรวจระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ด้วย จึงหวังว่าการมายื่นต่อ ป.ป.ช. จะเป็นประโยชน์ ทำให้เกิดความยุติธรรมมากกว่าที่เป็นอยู่
รังสิมันต์ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าของการให้ปากคำเรื่องนี้ต่ออัยการสูงสุดว่า คาดว่าอัยการน่าจะสรุปจบภายในสิ้นเดือนนี้ ค่อนข้างมั่นใจและคาดหวังว่าจะมีการนำตัวอุปกิตเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา แต่ยอมรับว่ามีความกังวลเกี่ยวกับมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม เพราะขณะที่ ตุน มิน ลัต ถูกดำเนินการแบบหนึ่ง อุปกิตกลับเป็นแบบ VIP ทั้งๆ ที่กระบวนการยุติธรรมควรดำเนินการกับคนทุกคนอย่างเสมอหน้าเท่าเทียม จึงขอฝากไปถึงอัยการสูงสุดว่าสังคมกำลังเฝ้ามองการทำหน้าที่ อยู่ที่ว่าจะทำให้สังคมมีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร