วานนี้ (29 พฤษภาคม) ในการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 รอมฎอน ปันจอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ตนเองมีข้อสังเกตเรื่องงบประมาณในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สะท้อนถึงยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของรัฐบาลชุดนี้
รอมฎอนกล่าวว่า จากเอกสารพบว่า งบประมาณแผนงานการบูรณาการขับเคลื่อนจังหวัดชายแดนใต้ รอบนี้ลดลงฮวบจาก 5,700 กว่าล้านบาท เหลือ 1,475 ล้านบาท ซึ่งยอดต่ำกว่าปีก่อนถึง 70% ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่งบประมาณต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จึงเกิดการตั้งคำถาม ว่ารัฐบาลประเมินการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้สำเร็จแล้วหรือไม่ ซึ่งคำตอบก็คือไม่
รอมฎอนกล่าวว่า หน่วยรับงบประมาณมากที่สุดก็เปลี่ยนไป จากเดิมคือ กอ.รมน. แต่ปีนี้เปลี่ยนไปเป็นกรมการปกครอง และ ศอ.บต. ก็หายไปจากแผนนี้ด้วย ทำให้เหลือเพียง 3 หน่วยงานหลัก งานยุทธศาสตร์เรื่องการพูดคุยสันติภาพ งานเยียวยาก็หายไป ทำให้ตนเองนึกว่ารัฐบาลจะทิ้งงานสำคัญไปแล้ว แต่เมื่อมาพิจารณาพบว่าโครงการเหล่านี้ถูกโยกย้ายไปที่แผนงานยุทธศาสตร์ป้องกัน และแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงถึง 34.9%
รอมฎอนกล่าวว่า งบชายแดนใต้กระจายอยู่หลายแผนงานตั้งแต่ปี 47 เราใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 6 แสนล้านบาท ในปีนี้งบประมาณของแผนบูรณาการภาคใต้ซึ่งเป็นแผนหลักลดลง 74% แต่ภาพรวมงบชายแดนใต้เพิ่มขึ้น 9%
ในส่วนของ กอ.รมน. 18 ปี ที่ผ่านมา กอ.รมน.ใช้งบประมาณไปกว่า 1.44 แสนล้านบาท ซึ่งในปีนี้อดีตนายกรัฐมนตรีบางท่านพูดไว้ว่าใช้งบประมาณไปกว่าครึ่ง ในแผนยุทธศาสตร์ป้องกันของกอ.รมน. แต่ความเป็นจริงเราสูญเสียไปเยอะกว่านั้น มีงบประมาณถูกใช้ไปในจังหวัดชายแดนภาคใต้ถึง 88% ของงบประมาณ 8,971 ล้านบาท กอ.รมน. รวมถึงค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ หากจำได้จะมีข่าวเรื่องบัญชีผี ที่มีเจ้าหน้าที่ได้รับเงินเดือนจากการไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ สิ่งนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วยความเสี่ยงและเสียสละรู้สึกหมดกำลังใจ
หากไม่มีการใช้จ่ายอย่างโปร่งใส และตรวจสอบอย่างจริงจังในงบประมาณแบบนี้ จะกัดกร่อนองคาพยพของภาครัฐเสียเอง ขณะเดียวกันมีข้อสังเกตที่อยากให้จับตาเรื่องงบก่อสร้าง งบโยธาธิการ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่เป็นเจ้าใหญ่ และรับเงินในจังหวัดชายแดนใต้เพิ่มขึ้นกว่า 2,479 ล้านบาท ทำให้การประมูลและจัดซื้อจัดสร้างในวิธีพิเศษนั้นทำได้ง่าย
รอมฎอนกล่าวอีกว่า งบประมาณโครงการสำคัญที่น่าจะมีนัยในการกำหนดทิศทางการแก้ไขปัญหาอย่างการพูดคุยสันติสุขในชายแดนใต้ลดลงไปกว่า 62% เหมือนกำลังลดระดับความสำคัญ ทำกังวลว่าจะต้องทำความเข้าใจงบประมาณภาครัฐภายใต้รัฐบาลแพทองธาร ภายใต้ระเบียบทางการเมืองที่พิลึกผิดฝาผิดตัวในปัจจุบันนี้อย่างไร การเปลี่ยนจุดเน้นไปที่แผนยุทธศาสตร์ จะแก้ปัญหาเอกภาพในการปฏิบัติได้หรือไม่ รัฐบาลพลเรือนจะถือธงนำในการแก้ไขปัญหาการเมือง และความมั่นคงได้หรือไม่
เรากำลังมีรัฐบาลที่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรได้บ้าง และจะไม่สามารถทำอะไรได้บ้าง และยังมีบางคนที่จะคอยยุให้ใช้กำปั้นเหล็กในการทุบอยู่เสมอไป ทั้งที่ตนเองจะเคยมีบทเรียนในการบริหารราชการมาแล้ว
นอกจากนี้การจัดการงบประมาณแบบนี้ทำให้ไม่แน่ใจว่าเป้าหมายที่ยุทธศาสตร์ชาติปี 2570 ความรุนแรงจะต้องลดลงเหลือศูนย์นั้นเป็นไปได้หรือไม่ เพราะหากเราไม่มีความหวัง ประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ก็ต้องปรับตัวไปตามสภาพ
รอมฎอนย้ำว่า ตนเองและพรรคประชาชนไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงจากทุกฝ่าย จากทุกกรณี และจากทุกรูปแบบ หลายปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าความรุนแรงไม่อาจหาข้อสรุปในทางการเมืองได้ และมีแต่จะทำให้เราตกหลุมพราง อยากย้ำเตือนอีกครั้งว่า รัฐบาลต้องมุ่งมั่นจริงจังกับปัญหาชายแดนใต้ ผลักดันกระบวนการสันติภาพให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ประคับประคองสถานการณ์ให้บรรลุถึงการหาทางออกในทางการเมืองให้ได้ เพื่อรักษาชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ขณะนี้
