เช้าวันนี้ (31 ตุลาคม) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีค้ามนุษย์ ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ท. มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก กับพวกรวม 103 คน ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ (โรฮีนจา) ที่ห้อง 704 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
คดีนี้ศาลอาญาสั่งจำคุก พล.ท. มนัส รวม 27 ปี โดยวันนี้ได้เบิกตัว พล.ท. มนัส กับพวกจากเรือนจำมาฟังคำพิพากษาอุทธรณ์
สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากมีการเปิดเผยชะตากรรมอันเลวร้ายของชาวโรฮีนจาจากขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติเนิ่นนานหลายปี โดยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์พิพากษาให้ พล.ท. มนัส มีความผิดในคดีค้ามนุษย์
ในขณะนั้นคดีนี้ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติ โดยศาลตัดสินให้มีความผิด 62 รายจากจำเลยทั้งหมด 103 รายในฐานความผิดต่างกัน เช่น เป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมต่างชาติ, สมคบและร่วมกันค้ามนุษย์, นำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร, รับและให้ที่พักคนต่างด้าว, ความผิดต่อเสรีภาพ, เรียกค่าไถ่ และทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยให้ลงโทษจำคุกตั้งแต่ 4-94 ปี
พล.ท. มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ถูกตัดสินจำคุก 27 ปี ฐานมีส่วนในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และความผิดฐานค้ามนุษย์ 3 คดี และยังพบอีกว่าการมีรับโอนเงินจากเครือข่ายค้ามนุษย์ราว 13 ล้านบาท
ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์พิพากษาให้ พล.ท. มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก รวมถึง โกโต้ง-ปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ อดีตนายก อบจ.สตูล และพวกรวม 62 คน มีความผิดในคดีค้ามนุษย์ชาวมุสลิมโรฮีนจา มีโทษจำคุกตั้งแต่ 4-94 ปี
หลายคนยกให้คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ เพราะนอกจากจะถูกจับตามองจากสื่อไทยและต่างประเทศเป็นจำนวนมากแล้ว คำพิพากษาของคดีนี้ยังมีความยาวถึง 540 หน้า ซึ่งศาลต้องใช้เวลาอ่านนานกว่า 12 ชั่วโมง ถือเป็นคดีแรกที่ศาลไทยใช้เวลาอ่านคำพิพากษานานที่สุดเท่าที่เคยมีมา เนื่องจากมีจำเลยในคดีมากถึง 103 คน (เสียชีวิต 1 คน) เหลือ 102 คน ยังไม่นับรวมกระบวนการพิจารณาคดีที่มีการสืบพยานรวมอีก 116 นัด
อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ THE STANDARD จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์