จรวด 2 ลูกตกในเขตกรีนโซน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายประเทศในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อคืนนี้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากอิหร่านโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในอัล-อัสซาดและเออร์บิลของอิรักด้วยขีปนาวุธนับสิบลูก
อย่างไรก็ตาม การโจมตีครั้งนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อสิ่งปลูกสร้างหรือเป็นอันตรายต่อชีวิตของทหารสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร
พันเอก ไมลส์ บี. แคกกินส์ โฆษกกองกำลังนานาชาติที่ปฏิบัติภารกิจต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ระบุว่า จรวดตกใกล้กับพื้นที่นานาชาติของกรุงแบกแดดเมื่อเวลา 23.45 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อคืนนี้ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต
ทีมข่าว CNN รายงานว่าได้ยินเสียงไซเรนจากในเขตกรีนโซนและเสียงระเบิด 2 ครั้ง แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าใครเป็นคนยิงหรือยิงมาจากที่ไหน
ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ตามเวลาเอเชีย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม พร้อมเรียกร้องให้ชาติยุโรปถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน เพื่อกดดันเตหะรานให้เจรจาทำข้อตกลงฉบับใหม่ที่สหรัฐฯ เห็นว่าจะช่วยหยุดยั้งอิหร่านจากการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้จริง
ท่าทีที่ผ่อนคลายลงของทรัมป์จากการที่เขาปฏิเสธใช้กำลังทหารตอบโต้อิหร่าน ช่วยลดความตึงเครียดในตะวันออกกลางลงได้มาก ถึงแม้ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านจะประกาศก่อนหน้านั้นว่าอิหร่านจะเดินหน้าโจมตีฐานของสหรัฐฯ ในอิรักอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้แค้นให้กับ พล.ต. กัสเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษกุดส์ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ที่เสียชีวิตจากการถูกโจมตีทางอากาศเมื่อวันที่ 3 มกราคม
ถึงแม้ทรัมป์มองว่าอิหร่านกำลังล่าถอย แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จำนวนหนึ่งมองว่ากองกำลังตัวแทนของอิหร่านในตะวันออกกลางยังคงเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ โดยหนึ่งในสิ่งที่ยังสร้างความวิตกคือการเสียชีวิตของโซเลมานี จะส่งผลต่อการควบคุมกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านให้การหนุนหลังหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาโซเลมานีเป็นบุคคลที่มีอำนาจสั่งการกลุ่มติดอาวุธให้เคลื่อนไหวในอิรัก
หมายเหตุ: ภาพประกอบเป็นแฟ้มภาพข่าวทหารในอิรัก ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในข่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
