เพียงแค่ 200 วัน ฟาร์ฮัด โมชิริ ประธานสโมสรเอฟเวอร์ตันก็ได้รู้ถึงผลของการเดิมพันครั้งใหญ่ของเขาในการเล่นกับไฟด้วยการดึง ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลมาเป็นนายใหญ่ในถิ่นกูดิสันพาร์ก ว่างานนี้ไม่มีคำว่าเจ๊ามีแต่คำว่าเจ๊ง
ถึงแม้จะออกสตาร์ทฤดูกาลได้สวยงามด้วยชัยชนะ 3 จาก 4 นัดแรก จนทำให้เอฟเวอร์โตเนียนเริ่มฝันไกล แต่ความจริงที่โหดร้ายก็ค่อยๆ ตามมา ตั้งแต่เกมที่ 5 เป็นต้นมาจนถึงนัดล่าสุดพวกเขาพบกับชัยชนะเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น และเสมออีก 3 นัด นอกนั้นคือการพ่ายแพ้อีก 10 นัดด้วยกัน
ลำพังผลงานดังกล่าวและสถานการณ์ของทีมที่อยู่อันดับ 15 ของตารางพรีเมียร์ลีกอยู่เหนือโซนตกชั้นแค่ 6 คะแนน เก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 26 เปอร์เซ็นต์จาก 22 เกม ซึ่งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ยุคที่ โฮเวิร์ด เคนดัลล์ อดีตผู้จัดการทีมผู้ยิ่งใหญ่กลับมาคุมทีมครั้งที่ 3 ในฤดูกาล 1997/98 ซึ่งเป็นช่วงตกต่ำสุดๆ ของสโมสร ก็เป็นเหตุผลที่มากพอที่จะทำให้ถูกปลดจากตำแหน่งได้แล้ว แต่อดีตกุนซือระดับท็อปของโลกอย่างราฟายังดูเหมือนสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกทีม
โดยหนึ่งในคนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้คือ ลูกา ดีญ อดีตนักเตะแกนหลักของเอฟเวอร์ตันซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลที่ออกมาทิ้งระเบิดว่าเขามีปัญหากับผู้จัดการทีมชาวสเปนจนเป็นเหตุที่ทำให้ต้องย้ายทีม และดูเหมือนบรรยากาศภายในทีมก็จะเป็นไปในทางนั้นจริง
ไม่นับการต่อต้านที่ชัดเจนของเหล่าเอฟเวอร์โตเนียนที่ไม่เห็นด้วยกับการที่สโมสรจะ ‘ผิดผี’ เอาอดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลมาร่วมทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำนับตั้งแต่ที่มีการแยกตัวกันระหว่างลิเวอร์พูลกับเอฟเวอร์ตัน
ก่อนนี้ผู้จัดการทีมคนเดียวที่เคยได้คุมทั้งสองทีมคือ วิลเลียม เอ็ดเวิร์ด บาร์เคลย์ ซึ่งเคยคุมเอฟเวอร์ตันในระยะสั้นๆ ก่อนจะตามแกนนำส่วนหนึ่งของทีมที่ไปก่อตั้งสโมสรใหม่ และได้เป็นผู้จัดการทีมคนแรกของลิเวอร์พูล
ไม่แปลกที่จะมีภาพของแฟนบอลเอฟเวอร์ตันทนสิ่งที่เห็นไม่ไหว เอฟเวอร์โตเนียนวัยกลางคนรายหนึ่งวิ่งลงไปในสนามแคร์โรว์โรด ในนัดที่ทีมรักของพวกเขาพ่ายต่อนอริช ซิตี้ เพื่อหวังจะไปให้ถึงตัวของราฟาที่ย่ำยีสโมสรของพวกเขาจนเกินทน (และก่อนหน้านี้ก็มีแฟนบอลบางรายล้ำเส้นถึงขั้นส่งป้ายผ้าข่มขู่ไปถึงบ้านของกุนซือชาวสเปน แต่ดันส่งไปผิดหลัง)
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ที่สุดแล้วเอฟเวอร์ตันไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปลดกุนซือชาวสเปนพ้นจากตำแหน่งก่อนที่ทีมจะย่ำแย่ไปมากกว่านี้ “สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันขอยืนยันการจากไปของ ราฟาเอล เบนิเตซ ในฐานะผู้จัดการทีมชุดใหญ่ โดยเบนิเตซที่มาร่วมทีมเอฟเวอร์ตันในเดือนมิถุนายน 2021 จะไปจากสโมสรโดยมีผลทันที สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้จัดการทีมถาวรคนใหม่จะมีขึ้นในเวลาต่อมา”
แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงก่อนพักครึ่งของเกมระหว่างลิเวอร์พูลกับเบรนท์ฟอร์ดเมื่อคืนวันอาทิตย์ (16 มกราคม) ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงร้องเพลงเชียร์ ราฟา เบนิเตซ ของเหล่าเดอะ ค็อปที่สะใจหลังเห็นอดีตกุนซือที่เคยพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 ในฤดูกาล 2003-04 ไปทำให้คู่ปรับร่วมเมืองเละเทะเข้าไปอีก
อย่างไรก็ดี ราฟาไม่ใช่ทั้งหมดแต่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของปัญหาสำหรับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งมีปัญหาที่สลับซับซ้อนและดูเหมือนจะยังค้นพบทางที่ถูกต้องไม่เจอ
นับตั้งแต่ที่ โมชิริ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรเมื่อปี 2016 เอฟเวอร์ตันมีการลงทุนจำนวนมหาศาลกว่า 500 ล้านปอนด์แต่กลับไม่สามารถค้นพบผู้จัดการทีมที่จะสามารถนำพาสโมสรให้ก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้องได้ โดยในขณะที่ลิเวอร์พูลได้ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่ผนึกกำลังกับ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการสโมสร พาทีมกลับคืนสู่แชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปี และคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ได้ เอฟเวอร์ตันกลับวนเวียนอยู่กับการซื้อที่ผิดพลาดและการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีม
ราฟา เบนิเตซ เป็นผู้จัดการทีมรายที่ 5 ต่อจาก โรนัลด์ คูมัน (2016-2017), แซม อัลลาร์ไดซ์ (2017-2018), มาร์โก ซิลวา (2018-2019) และ คาร์โล อันเชล็อตติ (2019-2021) โดยคนที่เหมือนจะพาสโมสรมาถูกทางได้คืออันเชล็อตติ แต่ก็ถูกทิ้งไว้กลางทางเมื่อเรอัล มาดริดติดต่อมา ก่อนที่โมชิริจะเลือกราฟา ด้วยเชื่อว่าเป็นผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์สูง และประทับใจในตอนสัมภาษณ์ช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและแผนงานที่ชัดเจน แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นดังหวังสักอย่าง
แล้วใครจะเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 6 ของโมชิริ? ตอนนี้มีหลายชื่อที่ถูกเชื่อมโยงด้วย แต่คนที่สื่อให้น้ำหนักมากที่สุดคือRoberto Martínez อดีตผู้จัดการทีมในดวงใจของชาวเอฟเวอร์โตเนียน ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่เจ้าของสโมสรปลดจากตำแหน่งในปี 2016 ที่อาจจะได้กลับมากอบกู้ทีมอีกครั้ง
นับตั้งแต่ถูกปลดจากตำแหน่งมาร์ติเนซ ได้รับบทเป็นโค้ชทีมชาติเบลเยียมและยังคงอยู่ในตำแหน่งถึงปัจจุบันแต่เริ่มอิ่มตัว และมีข่าวกับหลายสโมสรแต่ยังไม่ได้รับงานคุมทีมใด ซึ่งสื่อเชื่อว่ากุนซือชาวสเปนมีทุกอย่างพร้อมสำหรับการรับงานอีกครั้งเพื่อกอบกู้สโมสร โดยมีคนเดียวที่จะต้องยอมเสียหน้านิดหน่อยคือโมชิริที่จะต้องดึงตัวเขากลับมา
นอกเหนือจากมาร์ติเนซแล้วมีชื่อของ ดีเอโก มาร์ติเนซ อดีตโค้ชกรานาดา, นิโก โควัช ที่เพิ่งถูกปลดจากทีมโมนาโก, ‘The Special One’ โชเซ มูรินโญ ที่เวลานี้เริ่มลำบากกับโรมาเหมือนกัน, เกรแฮม พอตเตอร์ ผู้จัดการทีมที่พาไบรท์ตันผงาดในพรีเมียร์ลีกอย่างน่าชื่นชม
และอีกคนที่อาจจะถูกใจแฟนๆ คือ เวย์น รูนีย์ อดีตฮีโร่ของสโมสรที่กำลังทำผลงานได้น่าประทับใจกับดาร์บี เคาน์ตี เมื่อพาทีมที่ถูกลงโทษตัดคะแนนถึง 22 แต้ม จากกรณีสโมสรล้มเหลวในการบริหารทางการเงิน แต่กลับพาทีมหนีจากอันดับสุดท้ายได้สำเร็จและอยู่ห่างจากโซนปลอดภัยแค่ 8 คะแนน
แต่จะเป็นใครก็ตาม นี่คือสิ่งที่โมชิริและบอร์ดบริหารต้องตัดสินใจให้ดี เพราะเอฟเวอร์ตันบอบช้ำมามากแล้ว
อ้างอิง: