วันนี้ (18 พฤศจิกายน) กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ เวลา 06.00 น. พบว่า ปริมาณน้ำทางตอนบนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น
ปริมาณน้ำเหนือลดต่อเนื่อง
- สถานี C.2 (อ.เมือง จ.นครสวรรค์): มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,868 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งลดลงจากวานนี้ (2,931 ลบ.ม./วินาที) โดยระดับน้ำอยู่ที่ 24.62 เมตร (ต่ำกว่าตลิ่ง 1.08 เมตร) และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
- เขื่อนเจ้าพระยา (C.13 จ.ชัยนาท): ปริมาณน้ำไหลผ่านลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเช้านี้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,688 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลดลงจากวานนี้ที่ 2,755 ลบ.ม./วินาที) และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
กรมชลประทานยังคงดำเนินมาตรการบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวด เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำให้ได้มากที่สุด โดยได้ดำเนินการดังนี้:
1. หน่วงน้ำและผันน้ำเข้าระบบชลประทาน: ยังคงหน่วงน้ำส่วนหนึ่งไว้บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาอย่างเต็มศักยภาพ
2. ปรับลดการระบายท้ายเขื่อน: ปรับลดปริมาณน้ำที่ระบายท้ายเขื่อนให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำเหนือที่ลดลง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อพื้นที่ตอนล่าง
3. เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเล: สำหรับพื้นที่ตอนล่าง ได้เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด โดยใช้ ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เร่งระบายน้ำในช่วงน้ำลงอย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการใช้ สถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่บริเวณคลองชายทะเล เพื่อเร่งระบายน้ำออกทะเลอีกทางหนึ่ง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ปริมาณน้ำก่อนเข้ากรุงเทพฯ
- สถานี C.29B (อ.สามโคก จ.ปทุมธานี): ซึ่งเป็นจุดรวมน้ำก่อนไหลผ่านกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,230 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลดลงจากวานนี้ที่ 2,284 ลบ.ม./วินาที)


