หุ้นที่คนทั่วไปพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ต้องยกให้หุ้น OR หรือ บมจ.ปตท.น้ำมันและค้าปลีก ซึ่งเตรียมจะเปิดเสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในวันพรุ่งนี้ (24 มกราคม 2564) เวลา 09.00 น. โดยจะเสนอขายไปจนถึงช่วงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564
กระแสความสนใจในหุ้นตัวนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ OR ถือเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ปตท. (PTT) ประกอบกับที่ผ่านมา OR มีผลการดำเนินงานที่ดี มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แต่ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถการันตีผลการดำเนินงานในอนาคตได้ ทีมข่าว THE STANDARD WEALTH จึงอยากชวนผู้ลงทุน โดยเฉพาะประชาชนทั่วไปที่ยังไม่เคยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ทำความเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับหุ้น OR ในระยะข้างหน้า ก่อนตัดสินใจลงทุน
ความเสี่ยงเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ
– OR จัดการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในปริมาณที่มีนัยสำคัญจากกลุ่ม ปตท. หากเกิดข้อขัดข้องหรือสัญญารับซื้อผลิตภัณฑ์มีเงื่อนไขที่ต่างจากเดิมอย่างมีสาระสำคัญ อาจส่งผลเชิงลบกับ OR ได้
– ผลกระทบจากโรคโควิด-19 ยังมีความไม่แน่นอนและไม่สามารถคาดการณ์ได้ ขึ้นกับปัจจัยหลายประการ เช่น ระยะเวลา ความรุนแรง ขอบเขตการระบาด ผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
– ธุรกิจ OR มีความเสี่ยงที่จะมีผู้คัดค้านหรือต่อต้าน ด้วยเหตุผลคือ OR มีเครือข่ายสถานีน้ำมันระดับชาติครอบคลุมทั่วประเทศ และเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภค อาจทำให้ชื่อเสียง ธุรกิจ ฐานะการเงิน ได้รับผลกระทบทางลบอย่างมีนัยสำคัญ
– OR อาศัยแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในการทำธุรกิจ ดังนั้นหากมีเหตุการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงในเชิงลบต่อแบรนด์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบทำให้แบรนด์มีมูลค่าลดลง กระทบเชิงลบต่อธุรกิจบริษัทได้
– OR ทำธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (Non-Oil) โดยทำสัญญากับผู้ให้บริการภายนอก รวมถึงข้อตกลงแฟรนไชส์ จึงไม่มีอำนาจในการตัดสินใจหรือดูแลผลดำเนินงาน ซึ่งอาจส่งผลเชิงลบต่อธุรกิจ และผลการดำเนินงานของบริษัท
– OR มีความเสี่ยงในการรับผิดที่เกิดจากสินค้าและการให้บริการที่ไม่ปลอดภัย หรือคุณภาพผลิตภัณฑ์อาหาร ทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย อาจกระทบต่อธุรกิจและผลดำเนินงานได้
– ความสำเร็จของร้านคาเฟ่ Amazon และร้านอาหาร เครื่องดื่มอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความชอบและพฤติกรรมผู้บริโภค หากไม่สามารถปรับตัวต่อตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจกระทบต่อผลดำเนินงานได้
– ธุรกิจที่ OR ดำเนินการอยู่แข่งขันสูง หากไม่สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจทำให้รายได้และกำไรลดลง
– OR อาจมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนและปรับปรุงสิ่งปลูกสร้าง หากไม่สามารถดำเนินการได้ภายในเวลาและในงบประมาณที่กำหนด อาจมีผลต่อฐานะการเงิน ผลดำเนินงาน ได้
– OR มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้ พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณ 2561 ซึ่งความเป็นรัฐวิสาหกิจอาจจำกัดความคล่องตัวในการดำเนินงาน
– อาจได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่ผันผวน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะอุตสาหกรรม
– อุตสาหกรรมปิโตรเลียมอยู่ภายใต้การกำกับที่เข้มงวด และ OR ได้รับผลกระทบโดยตรงจากนโยบายและกฎระเบียบ เช่น ด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ซึ่งอาจส่งผลต่อผลดำเนินงาน
– ความผันผวนของราคาน้ำมันและปิโตรเลียม รวมทั้งปัจจัยต่างๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท
– กฎหมายและกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้น อาจทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
– กระแสอนุรักษ์พลังงานและความต้องการเชื้อเพลิงทางเลือกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการพัฒนาแหล่งพลังงานใหม่ๆ อาจส่งผลเชิงลบต่อความสามารถการทำกำไรของ OR
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
– สถานการณ์การเมืองในประเทศไทยจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจและราคาหุ้นของ OR
– อาจได้รับผลกระทบทางลบจากการก่อการร้าย
– OR อยู่ภายใต้กฎหมาย กฎเกณฑ์ นโยบาย และสถานการณ์ทางการเมือง สังคม และความเสี่ยง ของประเทศที่บริษัทประกอบธุรกิจ
ความเสี่ยงเกี่ยวกับการถือครองหุ้นสามัญของบริษัท
– ราคาหุ้น OR อาจมีความผันผวน และอาจทำให้ผู้ลงทุนที่จองซื้อครั้งนี้ขาดทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ
– การซื้อขายและการส่งมอบหุ้นของ OR ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอาจมีความเสี่ยง
– ความสามารถในการจ่ายเงินปันผลอาจถูกจำกัด และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของฝ่ายบริหารจัดการ
– การจำหน่ายหุ้นสามัญในอนาคตของ OR หรือ ปตท. ภายหลังการขายหุ้นสามัญครั้งนี้ และการมีหุ้นในจำนวนที่มากของบริษัทในการจำหน่าย อาจทำให้ราคาหุ้นของ OR ลดลง
– โอกาสของผู้ถือหุ้นเดิมในการจองซื้อหุ้นใหม่ที่เสนอขายในอนาคตอาจมีจำกัด
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากเอกสารชิ้นนี้ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSGetFile.aspx?TransID=293650&TransFileSeq=334
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล