ความคืบหน้าล่าสุดในการปฏิรูปตำรวจ นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานอนุกรรมการด้านการสื่อสารกับสังคม ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปฯ ว่า
การประชุมในวันนี้ (7 ก.พ.) ที่ประชุมได้พิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับสถานีตำรวจ 1,400 แห่งทั่วประเทศ หรือเรียกว่าการยกเครื่องโรงพักเป็น 3 ระดับคือ ระดับ S ให้มีตำรวจ 50-70 นาย, ระดับ M ให้มีตำรวจ 100-120 นาย และระดับ L ให้มีตำรวจ 180-220 นาย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกโรงพักจะมีทรัพยากรเพียงพอ มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน และสามารถทำหน้าที่ได้อย่างทันสมัยตามการเปลี่ยนแปลงของโลก
โดยจะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน เช่น การใช้จีพีเอสติดตามตัว การใช้โดรนไล่ล่าคนร้ายโดยผ่านกลไกจเรตำรวจที่ออกแบบใหม่เพื่อให้ทำงานเป็นเครือข่าย และเปิดให้ภาคส่วนต่างๆ มีส่วนร่วมในการดำเนินงานของตำรวจ โดยเฉพาะการสมคบทรัพยากร ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถลดระบบอุปถัมป์ลงได้
การยกเครื่องครั้งนี้ยังรวมถึงการจัดทำคู่มือพันธะสัญญาเพื่อให้ตำรวจปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมด้วยการกำหนดเวลาในภารกิจต่างๆ อย่างชัดเจน เช่น การเปรียบเทียบปรับตามใบสั่งจะใช้เวลา 30 นาที, รับแจ้งของ-เอกสารหายภายใน 30 นาที, การจัดทำสำเนาบันทึกประจำวันภายใน 2 ชั่วโมง
ที่ประชุมยังเห็นด้วยกับการยกเลิกคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ โดยจะมีคณะกรรมการชุดใหม่มาทดแทนทั้งในระดับโรงพักและระดับจังหวัด ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ประชาชน, หน่วยงานภาคเอกชน และหน่วยงานท้องถิ่นเข้าร่วมด้วยตามโมเดลประชารัฐ โดยทั้งหมดนี้คณะกรรมการฯ จะไปรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนเสนอต่อรัฐบาลภายในเดือนมีนาคมนี้
อ้างอิง: