วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) เวลา 11.00 น. พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกร่วมกับ กรมธนารักษ์ โดย ยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก ณ กองบัญชาการกองทัพบก
การลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ เพื่อให้การใช้ที่ราชพัสดุของกองทัพบก (ที่ดิน อาคาร และสิ่งปลูกสร้าง) ในการจัดสวัสดิการภายในกองทัพบก เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การจัดสวัสดิการภายในกองทัพบก ดำเนินการภายใต้กรอบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายใน
ส่วนราชการ พ.ศ. 2557 เช่น สถานีบริการน้ำมัน ร้านค้า ตลาดนัด กิจการสโมสร สนามมวย สนามกอล์ฟ สนามม้า และสถานพักฟื้นพักผ่อนกองทัพบก
ประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง และ พล.อ. ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) แถลงข่าวร่วมกันหลังพิธีลงนามใน MOU
ประสงค์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเริ่มมีความพยายามตั้งแต่สมัย พล.อ. อภิรัชต์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ได้มาคุยกับกรมธนารักษ์ และเริ่มโดยการมีร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่กองทัพภาคที่ 1
จากนั้นเมื่อ พล.อ. อภิรัชต์ ได้มาเป็นผู้บัญชาการทหารบก เมื่อเดือนตุลาคม 2561 ได้จัดให้มีร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในกองทัพบกขึ้นมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จัดอยู่ในระบบการเช่าใช้พื้นที่เชิงธุรกิจกับกรมธนารักษ์ เมื่อได้ดำเนินการแล้วเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามระเบียบของราชการ จึงมีการคุยกันต่อว่าจะทำอย่างไรให้ธุรกิจที่อยู่ในกองทัพบกมีความถูกต้อง
ทั้งนี้ พล.อ. อภิรัชต์ ได้คุยกับกรมธนารักษ์ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และเริ่มทำความเข้าใจกับคนในกองทัพบก และก่อนการทำ MOU ในวันนี้ได้มีการตรวจร่างประมาณเดือนครึ่ง
สำหรับที่ดินทั้งหมดสำรวจเบื้องต้นประมาณล้านไร่ โดยในส่วนนี้มีประชาชนบุกรุกเข้ามาทำเป็นพื้นที่ทำกินประมาณ 7 แสนไร่ ซึ่งกรมธนารักษ์จะเป็นผู้ดูแลเก็บค่าเช่า ทำสัญญาเช่าอย่างน้อย 3 ปี โดยไม่ใช่กองทัพบกเป็นผู้จัดเก็บค่าเช่า ซึ่งที่ผ่านมาในส่วนนี้กองทัพบกไม่เคยนำรายได้ส่วนนี้เข้าสู่กรมธนารักษ์ แต่ต่อไปรายได้แผ่นดินก็จะเพิ่มขึ้นจากส่วนนี้
ขณะที่ พล.อ. ธีรวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องสวัสดิการเป็นสิ่งที่กองทัพบกดำเนินการมาตั้งแต่ในอดีต เริ่มจากการดูแลกำลังพล ขยายตัวมาสู่ประชาชนทั่วไป สิ่งนี้เป็นสิ่งที่กองทัพบกตระหนัก เพราะทราบว่าเป็นพื้นที่ของแผ่นดิน
หลังจากนี้กองทัพบกจะยื่นโครงการต่างๆ ให้กรมธนารักษ์พิจารณาว่าจะดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างไร
“สิ่งที่จะยืนยันคือไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการในลักษณะใด ทั้งการดำเนินการภายในหน่วย หรือสวัสดิการเชิงธุรกิจ กำลังพลและครอบครัวของกองทัพบกยังคงได้รับสิทธิค่าใช้บริการในอัตราที่ได้รับการลดราคา” พล.อ. ธรวัฒน์ กล่าว
สำหรับสวัสดิการในกองทัพบกมี 2 อย่าง คือ สวัสดิการภายในหน่วย กับ สวัสดิการเชิงธุรกิจ ซึ่งจะมีการกำหนดลักษณะ ซึ่งกรณีถ้ามีประชาชนใช้บริการเกินกว่า 50% ก็จะเป็นสวัสดิการเชิงธุรกิจ โดยจากนี้โดย กรมธนารักษ์จะไปตรวจสอบร่วมกับกองทัพบกว่ามีอันใดที่เข้าข่ายเป็นสวัสดิการเชิงธุรกิจ
แต่ในชั้นต้น จะมีการจัดสวัสดิการเชิงธุรกิจที่จะขอกรมธนารักษ์ 40 กว่าโครงการ ซึ่งจะเสนอให้อธิบดีกรมธนารักษ์พิจารณาเป็นกรณีๆ ไป
ประสงค์กล่าวถึงการจัดเก็บรายได้ด้วยว่า กองทัพบกจะจ่ายให้กรมธนารักษ์ ส่วนกำไรจากกิจการจะนำเข้ากองสวัสดิการกลางของกองทัพบก
นักข่าวถามด้วยว่ารายได้จากสวัสดิการเชิงพาณิชย์ทั้งหมดรวมกี่พันล้านบาทต่อปี
พล.อ. ธรวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ถึงหรอก การจัดการเราไม่ใช่มืออาชีพ รายได้จึงไม่มากนัก
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์