วันนี้ (14 กรกฎาคม) ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และเครือข่ายที่รวมตัวจัดกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า ‘Respect My Vote’ เพื่อเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เคารพเสียงประชาชน โดยทางกลุ่มยังเรียกร้องต่อ ส.ว. หลังพบว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา มี ส.ว. ใช้สิทธิงดออกเสียง 159 คน
โดยเนื้อหาหลักๆ ของการปราศรัยจากแนวร่วมเครือข่ายต่างๆ มีทั้งการโจมตีผลการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (13 กรกฎาคม) โดยเฉพาะการลงคะแนนโหวตของ ส.ว. รวมถึงการปราศรัยเพื่อเรียกร้องให้ ส.ว. โหวตให้พิธา ในการลงมติครั้งที่ 2 อีกทั้งยังปราศรัยถึงการอภิปรายเรื่องมาตรา 112 ที่เกิดขึ้นในรัฐสภาเมื่อวานด้วย
พร้อมขอให้จับตาว่าในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องของ กกต. ให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ปมการถือหุ้นสื่อหรือไม่
นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ขอให้มวลชนติดตามในโซเชียลมีเดียผ่านช่องทางต่างๆ ถึงการนัดหมายการชุมนุม และขอให้ออกมาร่วมกันแสดงพลัง พร้อมเชิญชวนคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ให้ร่วมกันใส่เสื้อและติดสีแดง สีส้ม เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วย
ด้าน สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ระบุว่า ตนมีความตั้งใจในการมาร่วมกิจกรรม เพื่อแสดงพลังให้เห็นว่าประชาชนไม่เอา ส.ว. และพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่จากประชาชน ที่นำโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล มีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล
ซึ่งการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ส.ว. และ ส.ส. บางส่วน ไม่ได้เคารพในฉันทามติของประชาชน ส่วนตัวไม่อยากให้นำเรื่องการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 มาเป็นเงื่อนไขในการโหวต เพราะสิ่งที่พรรคก้าวไกลนำเสนอนั้นเป็นไปตามขั้นตอนของนิติบัญญัติ และกฎหมายดังกล่าวก็เคยผ่านการแก้ไขมาแล้วหลายครั้ง
สมยศกล่าวต่อว่า ตนมั่นใจว่าจะยังมีเสียง ส.ว. มากกว่า 13 คนที่จะเห็นชอบให้พิธาเป็นนายกฯ ในการโหวตครั้งหน้าวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ แต่ยังมี ส.ว. อีก 43 คนที่ส่วนมากเป็นผู้นำเหล่าทัพต่างๆ บ้างก็ไม่โหวตให้ บ้างก็ไม่มาร่วมประชุม ดังนั้นในการโหวตนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ จึงขอฝากไปถึง ส.ส. และ ส.ว. ให้เคารพเสียงของประชาชนด้วย
