จุดเริ่มต้นของธุรกิจเช่าใช้…เมื่อรักคือการไม่ครอบครอง
จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ได้เป็นที่มาของ ‘เศรษฐกิจแบ่งปัน’ หรือ Sharing economy ที่เน้นหลักการเข้าถึงการใช้งานมากกว่าการครอบครองเป็นเจ้าของ ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐฯ ที่ได้เริ่มพัฒนาระบบการนำสินค้าหรือบริการมาเสนอให้ผู้อื่นได้ ‘เช่าใช้’ เพื่อแลกกับค่าบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Netflix และ YouTube โดยการให้บริการจะอยู่ในรูปแบบการสมัครสมาชิก (Subscription Economy) โดย SCB EIC คาดว่ารูปแบบธุรกิจ Subscription Economy ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากตัวเลือกของผู้ให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลของ Grandview Research ที่คาดว่ามูลค่าตลาดของธุรกิจ Subscription Economy ของโลกมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 13.3% ต่อปี ในช่วงระหว่างปี 2025-2033 หรืออยู่ที่ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2033
ธุรกิจ ‘เช่าใช้’ สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มขยายตัวตามความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่สนใจการ ‘เช่าใช้’ มากขึ้น
ปัจจุบันแนวคิด Subscription Economy ได้ขยายขอบเขตที่กว้างขึ้นมาสู่ การ ‘เช่าใช้สินค้าในครัวเรือน’ ซึ่งรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกำลังซื้อที่ลดลงและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคยุคใหม่มีความต้องการเป็นเจ้าของสินค้าลดลงและต้องการใช้งานสินค้าที่ยืดหยุ่นมากขึ้น จึงเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจ ‘เช่าใช้’ เครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวและเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตา โดยจากข้อมูลของ Grandview Research คาดการณ์ว่า ตลาดเช่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าของโลกมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 9.2% ต่อปี (ระหว่างปี 2025-2030) ขณะเดียวกันในส่วนของผู้บริโภคชาวไทยก็เริ่มให้ความสนใจการ ‘เช่าใช้’ สินค้าในครัวเรือนมากขึ้น สะท้อนได้จากข้อมูล
ผลสำรวจของ SCB EIC Consumer Survey ภายใต้หัวข้อ สำรวจใจคนไทยยุคใหม่ ‘เลือกเช่า’ หรือ ‘เลือกซื้อ’ โดยพบว่า ผู้บริโภคราว 42% สนใจการเช่าใช้สินค้าในครัวเรือน โดยเฉพาะผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในคอนโด ทาวน์เฮาส์/ทาวน์โฮม และหอพัก โดยแรงจูงใจหลักคือไม่ต้องการจ่ายการซ่อมบำรุง และต้องการทดลองใช้สินค้าพรีเมียมหลายยี่ห้อมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจยังให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคบางส่วนยังคงไม่สนใจการเช่าใช้เนื่องจากข้อจำกัด/เงื่อนไขของสัญญาเช่าและยังมีตัวเลือกค่อนข้างจำกัด
ผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างประเทศได้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากความต้องการเช่า จึงเพิ่มรูปแบบการขายให้ครอบคลุมถึงการ ‘เช่าใช้’ มากขึ้น
นอกจากการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการได้เริ่มวางกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่ครอบคลุมถึงการ ‘เช่าใช้’ เพื่อให้ผู้บริโภคยุคใหม่สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจเช่าเครื่องใช้ไฟฟ้า LG ในเกาหลีใต้ที่โตเฉลี่ย 30%CAGR (2020-2024) ดันรายได้ในปี 2020 จาก 5.9 แสนล้านวอน เพิ่มขึ้นเป็น 1.67 ล้านล้านวอนในปี 2024 หรือมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากการ ‘เช่าใช้’ เพิ่มขึ้นจาก 1% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2020 มาอยู่ที่ 2% ในปี 2024 แม้ว่า LG จะมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจเช่าใช้มากขึ้น
อย่างไรก็ดี คาดว่าธุรกิจให้เช่าเครื่องใช้ไฟฟ้าของ LG ในเกาหลีใต้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สร้างรายได้ให้กับ LG ควบคู่ไปกับการขายขาดในระยะข้างหน้า สะท้อนได้จากรายได้จากยอดขายของ LG Electronics ที่ยังมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 10%CAGR (2020-2024)
สำหรับไทย SCB EIC มองว่า ธุรกิจ ‘เช่าใช้’ อาจเป็นกลยุทธ์เสริมที่ช่วยทำให้ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยเติบโตได้ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนมากขึ้น
SCB EIC มองว่า รูปแบบธุรกิจ Subscription Economy ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ต้องพึ่งพารายได้จากการซื้อขาดเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันก็ถือได้ว่าเป็นการแบ่งเบาภาระทางการเงินสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เงินก้อน หรือไม่มีความสามารถทางการเงินที่จะซื้อขาด และเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อนำความคิดเห็นไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยส่งเสริมความยั่งยืนด้วยการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ายังเผชิญความท้าทายอีกหลากหลายมิติ ทั้งการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากผู้เล่นใหม่ และความต้องการซื้อสินค้าใหม่ที่ลดลง แม้โมเดล Subscription จะเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ แต่ก็มีโจทย์ท้าทายด้านการบริหารต้นทุนและการจัดการสินทรัพย์/ค่าเสื่อมราคา รวมถึงปัญหาสินค้าตกรุ่นหรือการยกเลิกสัญญา ผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สนใจโมเดลธุรกิจในรูปแบบการ ‘เช่าใช้’ ควรเร่งปรับ
กลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ดังนี้
- วางแผนพัฒนาการให้บริการหลังการขายเพื่อใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการมัดใจผู้บริโภค โดยออกแบบโปรแกรมเพื่อให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งการซ่อมบำรุง การตรวจสอบสภาพสินค้า ซึ่งการใส่ใจการให้บริการหลังการขายอาจเป็นหมัดเด็ดของการ ‘เช่าใช้’ ที่การ ‘ซื้อขาด’ ทำได้ค่อนข้างจำกัด เช่น การเปลี่ยนหรือคืนสินค้าในระยะเวลาที่พ้นกำหนดการรับประกัน การให้บริการซ่อมบำรุงสินค้าที่การซื้อขาดอาจมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- การออกแบบโปรโมชันที่จูงใจ โดยนำเสนอระดับราคาที่หลากหลาย มีราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่าและจัดโปรแกรมพิเศษสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับประเภทที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ไปจนถึงจัดโปรแกรมสินค้าพรีเมียมสำหรับผู้ที่สนใจสินค้านวัตกรรมที่มีมูลค่าสูง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคที่ยังไม่ต้องการจ่ายเงินจำนวนมากสามารถเข้าถึงสินค้าเหล่านี้
- เสนอทางเลือกของสัญญาให้มีความยืดหยุ่น มีการจัดโปรแกรมระยะสั้น 6 เดือนถึง 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ต้องการทดลองใช้บริการสินค้า
- สร้างแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันที่มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น เช่น โปรแกรมวิเคราะห์ไลฟ์สไตล์เพื่อเลือกสินค้าที่เหมาะกับลูกค้า การเปรียบเทียบราคาหรือรุ่นที่สนใจ เป็นต้น
- ให้ความสำคัญเรื่องการบริโภคแบบยั่งยืน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ ด้วยการสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงการใช้บริการ ‘เช่าใช้’ ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ในระยะข้างหน้า
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังเผชิญความเสี่ยงรอบด้านทั้งจากแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้เล่นที่หลากหลายมากขึ้น รวมไปถึงจากการทะลักเข้ามาของสินค้านำเข้าราคาถูกจากจีน ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นการเข้าถึงสินค้าและบริการมากกว่า
การครอบครองเป็นเจ้าของมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการต่างต้องงัดไม้เด็ดเพื่อทำให้ธุรกิจสามารถไปต่อได้
โดย SCB EIC มองว่า รูปแบบธุรกิจเช่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอาจเป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจที่ช่วยเสริมทัพให้ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เติบโตได้ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนมากขึ้น
อ่านบทวิเคราะห์ฉบับออนไลน์ได้ที่:


