วันนี้ (1 ตุลาคม) ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันประท้วง โดยมีการทุบรถและนำนำ้ปลาร้ามาปาใส่รถเจ้าหน้าที่และรถรัฐมนตรี ในระหว่างที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์นำ้ท่วมที่จังหวัดนนทบุรีเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมาว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ. ประยุทธ์ ก็เพื่อต้องการเข้าไปรับทราบปัญหาด้วยตนเอง จะได้เร่งช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมในขณะนี้ได้ถูกจุดและรวดเร็ว แต่กลับมีการใช้ความรุนแรง ถึงขนาดมีการทุบรถรัฐมนตรีอีกด้วย ซึ่งไม่อยากให้เกิดภาพแบบนี้ในสถานการณ์ขณะนี้ที่ประเทศกำลังต้องการความร่วมมือร่วมใจกันจากคนไทยทุกคน
ขอให้กลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังในการปลุกระดมให้ประชาชนออกมาเมื่อวานนี้นั้นทบทวนให้ดีว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นประชาชนได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ เพราะแทนที่จะได้เร่งแก้ไขปัญหาที่ทราบจากปากของผู้เดือดร้อนเอง กลับต้องเสียโอกาสได้เพราะกลุ่มคนเพียงไม่กี่คน
“ยืนยันว่าการลงพื้นที่ของท่านนายกฯ นั้น เพราะขณะนี้ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนจากสถานการณ์นำ้ท่วม รัฐบาลจึงลงไปช่วยและรับฟังปัญหา เพื่อที่จะได้นำกลับมาแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว และท่านนายกฯ ก็ไม่ได้หนีม็อบอย่างที่บางฝ่ายเข้าใจ แต่เพราะท่านนายกฯ ไม่อยากให้เกิดการกระทบกระทั่ง เนื่องจากเราทุกล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน ทั้งนี้ความเห็นต่างเกิดขึ้นได้ แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้จะได้รับด้วย” ธนกร กล่าว
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังฝากขอโทษสำหรับการกระชับภารกิจในการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำที่จังหวัดนนทบุรีเมื่อวานนี้ เนื่องจากได้รับรายงานว่ามีมวลชนผู้ไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศจำนวนหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการให้เกิดภาพสถานการณ์ใดๆ ที่อาจจะสร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่ติดตามการทำงานของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะลงพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อพบปะประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมและปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไปอย่างแน่นอน