สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติ (National Association for Business Economics: NABE) เปิดเผยรายงานผลการสำรวจนักวิเคราะห์เศรษฐกิจฉบับล่าสุดพบว่า ส่วนใหญ่เห็นโอกาส 50-50 ที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายในปี 2024
ทั้งนี้ ผลการสำรวจชี้ว่า ประมาณ 3 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถาม หรือราว 71% ระบุว่า โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะตกต่ำจนเข้าสู่ภาวะถดถอยภายใน 12 เดือนข้างหน้าคือประมาณ 50% หรือน้อยกว่านั้น ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์มากกว่า 1 ใน 4 ระบุว่า แนวโน้มที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะตกต่ำอยู่ที่ประมาณ 25%
Carlos Herrera ประธานการสำรวจสภาพเงื่อนไขทางธุรกิจของ NABE และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Coca-Cola ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือ กล่าวว่า บรรดานักเศรษฐศาสตร์ในสังกัดที่เข้าร่วมการสำรวจส่วนใหญ่มีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจในปีหน้า เนื่องจากมองเห็นความน่าจะเป็นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยลดน้อยลง
โดยการสำรวจก่อนหน้าในช่วงเดือนเมษายนพบว่า นักเศรษฐศาสตร์เกือบครึ่งเห็นโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยมากกว่า 50%
รายงานระบุว่า ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงยอดขายและผลกำไรที่เพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา การสำรวจระบุว่าเปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามที่รายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นยังคงมีจำนวนแซงหน้าผู้ที่รายงานว่ายอดขายลดลง โดยธุรกิจต่างๆ ยังรู้สึกมีความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับผลกำไรในอนาคตในอีก 3 เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ยังตั้งข้อสังเกตว่าราคาต้นทุนวัสดุยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นฤดูร้อน ซึ่ง Julia Coronado ประธาน NABE กล่าวว่า ผลการสำรวจสภาวะธุรกิจของ NABE ในเดือนกรกฎาคม 2023 สะท้อนถึงเศรษฐกิจของยอดขายและผลกำไรที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนวัสดุลดลงและค่าจ้างที่มีเสถียรภาพมีความท้าทายน้อยลง
ยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจต่างๆ รายงานว่าค่าจ้างของบริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงไตรมาสที่ 2 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021 โดยค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นเป็นองค์ประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในสหรัฐฯ เนื่องจากธุรกิจต่างๆ แข่งขันกันเพื่อจ้างคนงานในจำนวนจำกัด
การสำรวจซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 12 กรกฎาคม บวกกับการสัมภาษณ์ความเห็นเพิ่มเติมจากสมาชิก NABE อีก 52 คนนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางสัญญาณของภาวะเงินเฟ้อที่กำลังชะลอความร้อนแรงลง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดราคาสินค้าในชีวิตประจำวันอย่างกว้างๆ รวมถึงน้ำมัน ของชำ และค่าเช่า เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิถุนายนจากเดือนก่อนหน้า และขยับขึ้นเพียง 3% ในอัตรารายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างช้าๆ แต่คงที่ เมื่อรวมกับความยืดหยุ่นอย่างน่าประหลาดใจของตลาดแรงงาน ได้จุดประกายความหวังในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ว่าสหรัฐฯ จะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ได้สำเร็จ
อ้างอิง: