ยังคงเป็นกระแสให้พูดถึงและติดอันดับ Top 10 ใน Netflix จนถึงปัจจุบัน สำหรับรายการ Single’s Inferno ทั้งจากเสน่ห์เหลือร้ายของผู้เข้าแข่งขัน รูปแบบรายการชวนจิ้นและกระแสดราม่าหลังรายการจบที่เปลี่ยน ซงจีอา จากนางฟ้าเป็นนางร้าย เพราะใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งถ้าใครดูจบแล้วอารมณ์ค้าง หรือปกติเป็นแฟนรายการแนวนี้อยู่แล้ว ผู้เขียนไม่อยากให้มองข้ามเรียลิตี้สัญชาติญี่ปุ่น เพราะมันทั้งโหดและหินอย่าง REA(L)OVE และThe Future Diary ที่ชวนให้เราตั้งคำถามว่า ถ้าจะมีความรักสักครั้ง ก้าวข้ามอดีตกับรู้จุดจบในอนาคต อะไรโหดกว่ากัน
REA(L)OVE รักไม่หลอก
REA(L)OVE รักไม่หลอก คือเรียลิตี้สุดดาร์กที่มีมู้ดแอนด์โทนแตกต่างจากรายการเดทติ้งทั่วไปทั้งการใช้คำพูด และมีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง เรียกว่าล่อแหลมยิ่งกว่าเรียลิตี้จากฝั่งตะวันตกอย่าง Love Island และ Too Hot to Handle เสียอีก ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ ธีมของรายการที่ชวนให้เราตั้งคำถามว่า การที่จะเดตกับใครสักคน เราก้าวข้ามอดีตของเขาได้หรือเปล่า
ผู้เข้าร่วมรายการมีทั้งหมด 18 คน ต้องมาใช้เวลา 3 วัน 2 คืนร่วมกัน ถ้าได้ดูภายนอกก็เหมือนคนธรรมดาที่เราเดินสวนกันในชีวิตประจำวัน แต่ใครจะรู้ว่าพวกเขามีความลับมืดมนซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นดาราหนัง AV เคยหย่าร้าง มีหนี้สินเป็นล้าน เปลี่ยนคู่นอนมาแล้ว 300 คน เป็นอดีตอาชญากร และมีรสนิยมทางเพศบางอย่างที่ยากจะยอมรับ ฯลฯ ความหนักเบาจากเรื่องราวในอดีตของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป แต่ดูเหมือนทุกข้อต้องทำให้สะดุดหากคิดจะสานสัมพันธ์กับคนเหล่านี้
ความสนุกของ REA(L)OVE รักไม่หลอก คือการค่อยๆ เผยความลับอันดำมืดของแต่ละคนในจังหวะไม่เป็นใจ บางคู่กำลังไปด้วยกันได้ดี แต่ก็ต้องอึ้งเมื่อรู้ความลับของคู่เดต หรือความลับบางข้อก็กลับทำให้เขาคนนั้นกลายเป็นหนุ่มฮอตสาวฮอตเลยก็มี ส่วนในตอนท้ายคือการสารภาพรัก ซึ่งความลับต่างๆ ก็มีผลต่อการตัดสินใจของหลายๆ คู่ ที่มีทั้งสุขและสมหวังที่คนแปลกสองคนมาเจอกัน และบางคู่ก็ต้องผิดหวัง เพราะชีวิตจริงนั้นข้อจำกัดจากอดีตมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในปัจจุบัน
REA(L)OVE รักไม่หลอก
REA(L)OVE รักไม่หลอก ทำให้นึกถึงความรักออนไลน์ในยุคปัจจุบัน เราอาจจะเจอใครสักคนที่ถูกใจผ่านแอปพิเคชัน ปัดขวาโดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง และเมื่อความสัมพันธ์เดินไปข้างหน้า เราจะละทิ้งความหลังที่เคยผ่านมาของเขาได้มากน้อยแค่ไหน?
ส่วน The Future Diary รักมีสคริปต์ ชวนตั้งให้เราตั้งคำถามว่าถ้ารู้จุดจบของความรักในอนาคต เรายังยืนยันที่จะรักอยู่หรือเปล่า? รายการนี้เป็นเรียลิตี้รักแนวแปลกที่จะมีไดอะรีเป็นตัวกำหนดตอนต้นและตอนจบความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยไดอะรีในแต่ละบทจะกำหนดตอนเริ่มต้นและตอนจบเอาไว้หลวมๆ ค่อยๆ ให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้ชีวิตของกันและกัน บางบทก็สร้างสถานการณ์ให้เกิด ‘ฉากจี๊ดๆ’ แบบที่เราได้ดูกันในหนังรักโรแมนติก และไม่ใช่แค่รักกัน ยังกำหนดความบาดหมางคลางแคลงใจให้อีกฝ่ายหายไปดื้อๆ หรือปฏิเสธความสัมพันธ์แบบไม่มีเยื่อใย รวมทั้งเก็บงำความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจไม่บอกกันตรงๆ แต่ที่โหดและหินกว่านั้นคือเมื่อเรื่องราวเดินทางไปจนครบ 8 บทของไดอะรี ทั้งสองคนจะต้องจากกันไปตลอดกาล
The Future Diary รักมีสคริปต์
ขณะที่ Single’s Inferno คนดูต้องลุ้นไปกับเรื่องดราม่าสลับคู่สลับตัวแต่ The Future Diary รักมีสคริปต์ จะพาคนดูเข้าไปสู่ฉากในหนังรักโรแมนติกสุขเศร้าเคล้าน้ำตา เหมือนได้ดูชีวิตของคู่รักธรรมดาคู่หนึ่งตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่จำใจจากกันทั้งที่ยังรักกันอยู่
The Future Diary รักมีสคริปต์
โดยตัวละครในซีซันนี้คือเชฟหนุ่มจากฮอกไกโด และนักศึกษาสาวจากโอกินาวา เรียกว่าอยู่เหนือสุดและใต้สุดของเกาะญี่ปุ่นจนยากที่จะมาเจอกัน ส่วนรูปร่างและหน้าตาแม้อาจจะไม่สะดุตาในตอนแรก แต่เมื่อดูไปเรื่อยๆ จะพบว่าทั้งคู่มีเสน่ห์บางอย่างที่ให้คนดูต้องลุ้นให้เขาและเธอได้กลับมารักกัน
The Future Diary รักมีสคริปต์ จะทำให้เราย้อนนึกถึงความสัมพันธ์อย่างน้อยสักครั้งในชีวิตที่ได้พบกับใครบางคน มีความรู้สึกดีๆ ร่วมกัน และจบลงอย่างไม่สมหวัง ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้กลับตราตรึงอยู่ในใจ เพราะมันแคปเจอร์แต่ช่วงเวลาแสนหวาน ซึ่งก็ย้อนกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าความสัมพันธ์นั้นยังอยู่และได้เรียนรู้ข้อเสียของกันและกันมันจะเป็นเรื่องน่าประทับใจอยู่หรือเปล่า และหากรู้ว่ารักครั้งนั้นจะจบไม่สวยในอนาคต เราจะหยุดหรือจะปล่อยหัวใจให้ไปต่อกันแน่?
The Future Diary รักมีสคริปต์
รับชมเรียลิตี้รักสุดทารุณสัญชาติญี่ปุ่นทั้งสองเรื่องได้ทาง Netflix