วันนี้ (16 มีนาคม) การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2022/23 ระหว่าง ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด พบกับ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว
เกมครึ่งแรกทั้งคู่เปิดเกมบุกใส่กันได้สนุก แต่ภาพรวมเป็นทางเรอัล มาดริด ครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อยที่ 55% ขณะที่โอกาสยิงมีเท่ากันที่ฝั่งละ 4 ครั้ง แต่ท้ายที่สุดทั้งคู่ยังใส่สกอร์ไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรกที่ 0-0
เปิดเกมครึ่งหลัง เกมรับทั้ง 2 ทีมยังคุมสถานการณ์กันได้ดีมาก ตัดจังหวะเกมรุกคู่แข่งกันได้ทันท่วงทีอยู่ตลอด
นาทีที่ 60 เจ้าบ้านได้ลุ้นทำประตูจากจังหวะที่ ลูกา โมดริช พาบอลตะลุยมาทางซ้าย ก่อนโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เฟเดริโก วัลเวร์เด ได้ขึ้นโหม่ง แต่บอลก็หลุดข้ามคานออกไป
นาทีที่ 68 วินิซิอุส จูเนียร์ ได้พาบอลตัดเข้ากลาง ก่อนเปิดตัดแนวรับลิเวอร์พูลไปให้ คาริม เบนเซมา ได้ยิงเน้นๆ แต่บอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 78 เอดูอาร์โด คามาวิงกา จ่ายแทงบอลเข้ากลางให้เบนเซมา แต่ทว่า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เข้ามาปั๊มบอลไหลไปเข้าทางของ วินิซิอุส จูเนียร์ แต่หาจังหวะยิงไม่ได้ ก่อนสะกิดบอลส่งให้เบนเซมาได้ยิงเข้าไปโล่งๆ พาให้เจ้าบ้านออกนำก่อน 1-0 (รวม 2 นัด เรอัล มาดริดนำ 6-2)
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกมเรอัล มาดริด เปิดซานติอาโก เบร์นาเบว เอาชนะลิเวอร์พูล 1-0 (รวมผลสองนัด เรอัล มาดริดชนะ 6-2) ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ