วันนี้ (28 มิถุนายน) รัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่อดีตผู้นำกัมพูชาออกมาไลฟ์โจมตีรัฐบาลไทยและประเทศไทยเมื่อวานนี้ (27 มิถุนายน) โดยมีข้อสังเกตว่าทั้งคำพูดล่าสุดและก่อนหน้าของผู้นำกัมพูชาถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทยแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการกล่าวโจมตีเพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลไทยที่มีจุดมุ่งหมายให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล (Regime Change) อย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งขัดต่อทั้งหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งหลักการของอาเซียนด้วย
ส่วนที่เกี่ยวกับการเป็น ‘ศูนย์กลางของอาชญากรรมผิดกฎหมายขนาดใหญ่’ ในภูมิภาคของกัมพูชานั้น รัศม์ระบุว่า ได้มีการระบุข้อมูลโดยหน่วยงานของสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC) หน่วยงานอิสระอย่าง Amnesty International ตลอดจนสื่อสำนักข่าวระดับโลกต่างๆ รวมทั้งยังเป็นข้อมูลจากมิตรประเทศระดับมหาอำนาจ ซึ่งหากกัมพูชาปฏิเสธว่าไม่จริง ก็ควรไปชี้แจงกับหน่วยงานต่างๆ และประเทศเหล่านั้นเองโดยไม่ต้องมาบอกไทย
รัศม์ยังกล่าวถึงประเด็นข้อกล่าวหาหรือคำกล่าวโจมตีอื่นๆ ของฝ่ายกัมพูชา โดยเชื่อมั่นว่าประชาคมโลกตลอดจนผู้มีความรู้ทั่วไปย่อมสามารถใช้วิจารณญาณเพื่อพิจารณาได้เองว่าความจริงเป็นเช่นไร ซึ่งจริงๆ แล้วตนเห็นว่าแทบไม่มีแก่นสารใดๆ ที่มีค่าคู่ควรต่อการชี้แจง
“ไม่น่าเชื่อว่าผู้นำต่างประเทศจะเจ็บร้อนแทนถึงขั้นอธิบายปกป้องพรรคใดพรรคหนึ่งของอีกประเทศ ขอตั้งข้อสังเกตว่ามีผลประโยชน์ทางการเมืองร่วมกันในเรื่องใด” รัศม์กล่าว