“ซาร่าเริ่มเล่นละครตั้งแต่อายุ 14-15 ปี ผ่านฉากข่มขืนมา 7 ครั้งก่อนที่จะเริ่มฉากจูบในฮอลลีวูดเสียอีก“ ซาร่า มาลากุล เลน เคยให้สัมภาษณ์กับ Coconuts Bangkok ในปี 2557 หลังจากสังคมไทยวิพากษ์วิจารณ์ภาพลักษณ์เซ็กซี่ของเธอจากภาพยนตร์เรื่อง Jailbait ฟังดูเป็นเรื่องตลกร้ายที่เรายอมรับการโดนข่มขืนมากกว่าการที่ผู้หญิงจะเลือกโชว์เนื้อหนังตามความต้องการของตัวเอง
การข่มขืนเป็นความบันเทิงของคนไทยตั้งแต่เมื่อไร? ก็ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ภาพยนตร์ไทยยุคแรกที่มักบรรจุฉากตัวร้ายลั่นวาจา ‘จะยัดเยียดความเป็นผัว’ ให้กับนางเอกหรือตัวละครหญิงในเรื่อง และบ่อยครั้งยัง Romanticize การข่มขืนให้กลายเป็นการแสดงความรักของพระเอกผู้ไม่รู้จักหัวใจตัวเองต่อนางเอกผู้ดื้อรั้น ที่สำคัญหนังหรือละครแนวนี้มักประสบความสำเร็จแบบถล่มทลาย เกิดการผลิตภาพเดิมซ้ำๆ กลายเป็นเอกลักษณ์ความบันเทิงแบบไทยๆ ในที่สุด ณ จุดนี้ก็ต้องยอมรับความจริงอันปวดใจว่า คนดูเองก็เป็นผู้สนับสนุนชุดความคิดนี้อยู่เหมือนกัน
ภาพจากละครเรื่อง คลื่นชีวิต
ภาพจากละครเรื่อง สวรรค์เบี่ยง
เมื่อเวลาผ่านไปคนดูเริ่มเปิดโลกทัศน์มากขึ้น ฉากข่มขืนในหนังและละครก็กลายเป็นสิ่งไม่เหมาะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เห็นเป็นรูปธรรมก็คือในปี 2551 มีละครระดับเมกะฮิตถึงสองเรื่องคือ จำเลยรัก และ สวรรค์เบี่ยง ที่มีฉากพระเอกข่มขืนนางเอก แม้จะกวาดเรตติ้งไปอย่างถล่มทลาย แต่ก็ได้รับก้อนอิฐไปเต็มๆ จากฉากดังกล่าว ทำให้ผู้สร้างในยุคหลังเริ่มระมัดระวังมากขึ้น อย่างในละครเรื่อง คลื่นชีวิต เวอร์ชัน 2560 ก็มีการปรับบทให้การข่มขืนเป็นความยินยอมพร้อมใจแบบประชดประชันของทั้งสองฝ่ายแทน
มาถึงประเด็นล่าสุดเรื่องฉากข่มขืนในละครเรื่อง เมียจำเป็น กันบ้าง ตอนแรกที่ผู้เขียนได้อ่านเรื่องย่อยังคิดในใจว่า ผู้จัดใส่ความแปลกใหม่มากกว่าจะทำให้เป็นละครกุ๊กกิ๊กสลับตัว ด้วยการสร้างคาแรกเตอร์พระเอกนางเอกให้เป็นคนติดละครในเรื่องก็เชื่อมโยงให้เนื้อหามีความคล้ายละครหลายๆ เรื่อง เลียนล้อกับละครไทย แต่จะเพราะความเลินเล่อหรืออะไรก็ตาม การใส่ฉากสุดคลิเช (ซ้ำซากจำเจ) ให้นางเอกถูกจับไปเพื่อหวังจะข่มขืน แล้ววิดีโอคอลหาพระเอกก็สร้างความไม่สบายใจให้กับคนดู
ภาพจากละครเรื่อง เมียจำเป็น
และพลาดหนักไปกว่านั้นก็คือปฏิกิริยาของพระเอก ที่ดูรังเกียจภรรยาตัวเองทั้งที่เธอคือ ‘เหยื่อ’ ในสถานการณ์นี้ ในยุคที่ผู้คนรณรงค์ทวงความยุติธรรมให้กับ ‘เมดูซา*’ เหยื่อของการถูกข่มขืนที่กลายเป็นผู้ร้ายในตำนานกรีก แม้ต่อมาผู้จัดจะแก้ลำว่าในอาทิตย์ต่อไปพระเอกจะสำนึกผิดแต่ก็คงไม่ทันแล้ว
ภาพจากละครเรื่อง เมียจำเป็น
หากตั้งใจจะล้อเลียนความซ้ำซากจำเจของละครไทย มันจะดีกว่าไหม ถ้าเนื้อเรื่องจะฉีกออกไปให้พระเอกเข้าไปปลอบประโลมอยู่เคียงข้างภรรยา สร้างค่านิยมใหม่ๆ ให้สังคมอย่างที่เขาบอกกันว่า ดูละครให้ย้อนดูตัว
เมื่อเกิดเหตุการณ์ข่มขืนความผิดบาปอยู่ที่ใคร? เรารู้กันอยู่ว่าความผิดอยู่ที่ผู้กระทำ แต่ตราบาปกลับอยู่ที่เหยื่อ และมักจะมองตราบาปนั้นอย่างเลวร้ายที่สุดเสมอ เลวร้ายขนาดที่ให้มันเป็นบทลงโทษต่อการกระทำอย่างสาสมที่สุด อย่างที่เรามักเห็นนางร้ายในหนัง และละครพบจุดจบด้วยการถูกข่มขืน ทั้งๆ ที่ไม่ว่าใครจะทำผิดถึงขนาดไหน ก็ไม่สมควรถูกบังคับขืนใจทั้งนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณี Club Friday To Be Continued ตอน เพื่อนรัก เพื่อนร้าย (ปี 2559) แม้เนื้อหาจะถึงพริกถึงขิง และตัวละคร ‘เชอรี่’ จะน่าตบขนาดไหน แต่ฉากโดนรุมโทรมแล้วถ่ายคลิปวิดีโอก็สร้างความอึดอัดมากกว่าความสะใจให้กับคนดู
ภาพจาก Club Friday To Be Continued ตอน เพื่อนรัก เพื่อนร้าย
ผู้เขียนรู้สึกดีที่มีกระแสต่อต้านฉากข่มขืนในหนังและละครมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่า ผู้เสพหนังและละครไทยได้พัฒนาเรียกร้องในสิ่งที่เหมาะที่ควร แม้ว่าฉากข่มขืนจะยังไม่หมดไปจากละครไทยในเร็วๆ นี้ แต่อยากให้ใช้เมื่อมันจำเป็นจริงๆ เท่านั้น ยกตัวอย่างง่ายๆ อีกไม่นานเราคงไม่เห็นฉากขุนช้างขืนใจนางวันทองในละครเรื่อง วันทอง ทางช่อง one31 แต่ฉากนี้สะท้อนภาวะจำยอม และชะตากรรมที่เลือกไม่ได้ของวันทอง ทำให้เนื้อหาได้ดำเนินต่อไป ความจริงเรื่องการข่มขืนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสังคม และก็คงเลี่ยงไม่พ้นที่จะมีการพูดถึงผ่านสื่อ แต่อยากให้ผู้ผลิตหนังและละครสื่อสารอย่างเข้าใจ และสร้างค่านิยมใหม่ๆ เหมือนอย่างซีรีส์ญี่ปุ่นที่ยังคงมีฉากข่มขืน แต่สื่อสารให้มันเป็นเรื่องเลวร้าย เป็นอาชญากรรม อย่างในซีรีส์เรื่อง Last Friends แบบที่ต่อให้ตัวละครจะหล่อแค่ไหน มาในมาดพระเอกอย่างไร สุดท้ายเมื่อใช้ความรุนแรงขืนใจคนอื่น ก็คือสิ่งที่น่ารังเกียจ หรือจะก้าวข้ามไปอีกขั้นให้ถึงซีรีส์เกาหลี ที่แทบจะไม่มีฉากข่มขืนอยู่เลย ทั้งๆ ที่สองชาตินี้ก็อยู่ในสังคมชายเป็นใหญ่ยิ่งกว่าไทยเสียอีก
ภาพจากซีรีส์เรื่อง Last Friends
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- http://bangkok.coconuts.co/2014/07/16/rape-culture-ramakien-railway-were-all-blame
- https://www.marumura.com/japan-rape-scene/
- https://coconuts.co/bangkok/features/sara-malakul-lane-talks-leaving-thailand-find-her-sexy-self/
- https://www.facebook.com/notes/374866933637351/
- https://www.thairath.co.th/content/617384
- เมดูซาเป็นนักบวชสาวบริสุทธิ์ที่มีผมสลวยสวยงาม แต่ถูกเทพโพไซดอนข่มขืนในวิหารแห่งอะธีนา เทพีอะธีนาคิดว่าเมดูซาสร้างความโสมมให้แก่วิหาร จึงสาปให้เมดูซากลายเป็นปีศาจที่มีผมเป็นงู ต่อมาถูกเพอร์ซีอุสตัดหัว และหัวของเธอยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะบนโล่ของเขา