×

รังสิมันต์เผยได้ข้อมูลเพิ่มอีก 48 หน้า โยงที่ปรึกษาฮุน เซน ชี้ธรรมนัสควรชี้แจงดีกว่าไล่ฟ้องปิดปาก

โดย THE STANDARD TEAM
07.10.2025
  • LOADING...
รังสิมันต์ ธรรมนัส

วันนี้ (7 ตุลาคม) รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศพร้อมให้ข้อมูลกับกรรมาธิการความมั่นคงฯ เรื่องที่รู้จักกับ เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ ที่ปรึกษาสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

 

รังสิมันต์กล่าวว่า เราเชิญไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังประชุมเสร็จก็ได้มีการออกหนังสือต่อ ซึ่งวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ตุลาคม) น่าจะส่งถึงเรียบร้อย ดังนั้น หากจะบอกว่าหนังสือยังไม่ถึงคงเป็นไปไม่ได้ โดยเชิญมาเวลา 11.30 น. คงพิจารณาไม่เกิน 12.30 น. เราไม่ได้เชิญแค่ ร.อ. ธรรมนัส แต่เราเชิญ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ด้วย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับ เบน สมิธ

 

นอกจากนี้ ยังเชิญ ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพื่อชี้แจงในประเด็นสินบน 40 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่า การเรียกทั้งหมดไม่ได้ตั้งอยู่บนความเกลียดชัง มีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือกลั่นแกล้งใคร อย่างเรื่องของไชยชนก ถ้ามีมูลจริงๆ ก็ถือว่ามีมีความผิดในการปฎิบัติหน้าที่มิชอบ หรือถ้าอยู่ๆ ไม่เป็นความจริงแล้วพูดขึ้นมา ก็อาจจะมีความผิดบางประการได้ เราทำเรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ให้ครอบคลุมทุกมิติ

 

รังสิมันต์ย้ำว่า ส่วนตัวไม่ได้มีความเกลียดชังใคร ทั้ง ร.อ. ธรรมนัส และที่ปรึกษาของสมเด็จ ฮุน เซน ถือว่าตนปฎิบัติหน้าที่ในเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใครเกี่ยวพันอะไรอย่างไร ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ยอมรับว่าการดำเนินคดีกับคนที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินไม่ใช่เรื่องง่าย ตำรวจนายทำคดีออกมาอย่างดีเยี่ยม แต่บางครั้งแนวการตีความของศาลอาจไม่เป็นคุณในเรื่องการปราบปรามการฟอกเงินขนาดนั้น จึงอาจมีปัญหาแบบนี้ได้

 

“แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องหยุดหรือปล่อยผ่าน ทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปอีก ดังนั้น จึงไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นการทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ เราในฐานะที่เป็นนักการเมือง เป็น สส. รวมถึงเป็นประธานกรรมาธิการ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อย่ามาอาศัยว่าคุณฟ้องผมแล้ว เป็นคดีแล้ว แล้วถ้าทำหน้าที่ต่อเป็นประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับคดีหมิ่นประมาท ถ้าเช่นนั้นต่อไปนี้ไม่ต้องมี สส. คนไหนทำงานแล้ว เพราะออกมาเปิดโปงเรื่องอะไร สักพักก็มีคนไปฟ้อง แล้วอย่างไรเขาต้องหยุด ถ้าใช้เทคนิคกันแบบนี้ ก็ทำลายกระบวนการยุติธรรม” รังสิมันต์กล่าว

 

รังสิมันต์ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ร.อ. ธรรมนัสพยายามจะเล่นใหญ่กับเรื่องนี้มาก แล้วอยู่ๆ ก็กลับตัว 360 องศา ไม่ดำเนินคดี ถึงแม้ตนเองจะไม่ได้อยากถูกฟ้อง ก็แปลกใจและตั้งคำถามว่า ร.อ. ธรรมนัสยังเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถืออยู่หรือไม่

 

“ผมคิดว่า ร.อ. ธรรมนัสต้องทบทวนตัวเอง ว่าการให้ข่าวที่มีลักษณะข่มขู่ ทุกคนรู้ว่าเป็นการข่มขู่ เป็นการทำให้ผมมีภาระในการเดินทาง ที่จะต้องไปพะเยา ไปนราธิวาส ทุกคนรู้ว่าการฟ้องแบบนี้ สร้างภาระให้กับคนที่ถูกดำเนินคดีแน่นอน แต่ทำไมอยู่ๆ ท่านสามารถพูดไปเรื่อยได้แบบนี้” รังสิมันต์กล่าว

 

รังสิมันต์ย้ำด้วยว่า ร.อ. ธรรมนัสต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ และการไปฟ้องร้องดำเนินคดีกับสื่อ อาจจะบอกว่าใช้สิทธิในกระบวนการยุติธรรม แต่ ร.อ. ธรรมนัสก็เป็นรองนายกรัฐมนตรี สามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว เป็นบุคคลที่สังคมให้ความสนใจอยู่แล้ว ก็ดำเนินการไป แล้วที่ไปดำเนินคดี 200-300 กรณ คิดว่าตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องตอบคำถามกับสังคมว่าคุณเป็นลูกไม้ลูกมือให้ ร.อ. ธรรมนัส หรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องสนใจ ถ้าตำรวจเข้าไปเป็นลูกไม้ลูกมือเพื่อให้เกิดการฟ้องปิดปาก คิดว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

 

รังสิมันต์ทิ้งท้ายว่า หลังจากได้เปิดเผยเรื่องที่ปรึกษาของสมเด็จ ฮุน เซน ว่าอาจมีความเกี่ยงพันกับเส้นทางการเงิน และหากดูที่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปราย ค่อนข้างชัดเจนว่า เงินดำที่เป็นที่ต้องสงสัยว่าเป็นของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ซึ่งกำลังจะมายึดประเทศเรา เราควรที่จะให้ความสำคัญและใส่ใจมากกว่านี้ คนระดับรองนายกรัฐมนตรี ควรตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่ใช่มาดำเนินการทางกฎหมายแล้วมาปิดปาก ไม่รู้ว่าจุดยืนของท่านธรรมมนัสในเรื่องนี้คืออะไร แต่เป็นจุดยืนที่น่ากังวลจริงๆ

 

“หลังจากที่ผมเปิดเรื่องนี้ ก็มีคนส่งข้อมูลมาเยอะ เมื่อวาน (6 ตุลาคม) เพิ่งได้ข้อมูลมา 48 หน้า เกี่ยวกับที่ปรึกษาสมเด็จ ฮุน เซน และมีแถมมาว่าให้ไปถามข้อมูลจาก ร.อ. ธรรมนัส เรื่องจีนเทา ท่านน่าจะมีข้อมูลเหล่านี้อยู่มาก คงจะได้มีการดำเนินการต่อไป” รังสิมันต์กล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising