วันนี้ (26 กุมภาพันธ์) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ หรือ ปชป. แถลงข่าวแสดงตัวขอเป็นผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดพังงา เขตเลือกตั้งที่ 2 บ้านเกิด โดยให้เหตุผลว่า ตนลงพื้นที่และเข้าใจปัญหาชาวบ้านในพื้นที่ คือเรื่องปัญหาที่ดินทำกิน ในการพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินทำกินที่ทับซ้อนกับที่ดินของรัฐ ซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมกว่า 20,000 ราย จึงเป็นเหตุผลที่อยากไปทำงานรับใช้บ้านเกิด และมีสิทธิ์ชอบธรรมในการลงสมัครรับเลือกตั้งตามข้อ 17 ของข้อบังคับพรรค ที่สมาชิกทุกคนมีสิทธิ์ลงสมัครตามข้อบังคับพรรค และทำหนังสือแสดงเจตจำนงต่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และ เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ไปแล้ว และตนมีความชอบธรรมที่จะได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 2 เพราะเป็นคนของพรรค ทำงานให้พรรคมาตลอด ซึ่งกระบวนการยังไม่แล้วเสร็จ แต่มีการปล่อยข่าวว่า ไม่มีใครรู้จักตนในพื้นที่ จึงทำให้ตนเปิดแคมเปญตามหาคนรู้จัก และบอกว่า ราเมศ เป็นลูกชาวบ้าน ไม่มีฐานะร่ำรวย ดังนั้นตนอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าถ้าตนที่เป็นลูกชาวบ้านแล้วสิ้นหวัง แล้วชาวบ้านจะไปหวังอะไร
จากนี้ไปจะลงพื้นที่ และยุติบททาบการทำงานฝ่ายกฎหมายในพรรค แต่ยังไม่ลาออกจากตำแหน่งโฆษกพรรค เพราะได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ยกเว้นได้รับคำสั่งจาก เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ขัดแย้งกับ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นนักการเมืองคนแรกที่ตนรู้จัก จึงไม่มีเหตุผลที่จะไปขัดแย้ง แต่ที่ประกาศจะรับฟังคำสั่งเฉลิมชัยคนเดียว เพราะเป็นเรื่องของสำนักงานเลขาธิการพรรค
ราเมศยังระบุว่า การมาแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ได้แจ้งต่อ ชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาที่ปรึกษาพรรค หรือผู้ใหญ่ในพรรคคนอื่นๆ เพราะเป็นสิทธิ์ของสมาชิกในการแสดงความเห็น
ราเมศยังกล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะพูดถึงอนาคตทางการเมือง หากไม่ได้ถูกคัดเลือกเป็นผู้สมัคร เพราะขณะนี้กระบวนการยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนที่พรรคมีการทำโพลคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส ถ้ามีความเป็นธรรมตนก็พร้อมยอมรับ และจะไม่ลาออกจากพรรค เพราะพรรคประชาธิปัตย์คือชีวิต และขอประกาศตัวเป็นลูกพระแม่ธรณีด้วย
อย่างไรก็ตาม ราเมศยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรค ที่ย้ายไปเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย แต่ไม่ได้มีการทาบทามให้ไปสังกัดพรรคตามที่เป็นข่าว