วันนี้ (28 มิถุนายน ) ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ หนึ่งในแกนนำคณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย แสดงความพอใจต่อภาพรวมการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยระบุว่า ประชาชนเดินทางมาร่วมกิจกรรมตั้งแต่เช้าก่อนเวลาที่คาดไว้มาก และยังมีมวลชนจากต่างจังหวัดทยอยเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อรอเข้าร่วมกิจกรรมไฮไลต์คือการร้องเพลงชาติพร้อมกันในเวลา 18.00 น.
ปานเทพกล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้มีผู้สนับสนุนการชุมนุมจากหลากหลายกลุ่ม ไม่จำกัดเฉพาะในกรุงเทพฯ แต่ยังมีการจัดกิจกรรมคู่ขนานในพื้นที่ศาลากลางจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นภาพรวมที่น่าพอใจและไม่มีอะไรน่ากังวล ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้
สำหรับกรณีที่ สนธิ ลิ้มทองกุล จะขึ้นเวทีปราศรัยในวันนี้ ปานเทพขอให้ผู้ชุมนุมและสาธารณชนรอฟังสารจากสนธิ เนื่องจากเป็นเวลานานแล้วที่สนธิไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัย
เมื่อถามถึงผลกระทบของการชุมนุมต่อรัฐบาล ปานเทพประเมินว่าการชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นจากกระแสที่ก่อตัวขึ้นก่อนหน้านี้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในโซเชียลมีเดีย รัฐบาลน่าจะได้เห็นถึงความรู้สึกของประชาชนในวันนี้ว่าเป็นอย่างไร
ในส่วนของเงินบริจาคสนับสนุนที่ตั้งใจจะมอบให้กองทัพภาคที่ 2 เพื่อนำไปจัดซื้อรถตักและโดรนตามความต้องการนั้น ขณะนี้มียอดเงินบริจาคขั้นต่ำทะลุ 24 ล้านบาทแล้ว
โดยปานเทพระบุว่า เงินสนับสนุนทั้งหมดมาจากประชาชน ไม่ได้มาจากนายทุนรายใด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้เป็นโทษ แต่กลับเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ส่วนรัฐบาลจะมีสำนึกและรับผิดชอบอย่างไร คงต้องรอดูภายหลังการชุมนุมในคืนนี้
ปานเทพยังเปิดเผยด้วยว่า ทางกลุ่มได้ประสานงานกับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อหารือว่าจะมอบเงินบริจาคเป็นเงินสดหรือจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือให้ หากสามารถจัดหาอุปกรณ์ได้ ก็จะช่วยให้ไม่ต้องผ่านขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง ทำให้กระบวนการรวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ปานเทพได้เน้นย้ำว่าไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมคือช่วงเวลาการร้องเพลงชาติและโบกธงชาติพร้อมกัน ซึ่งจะเป็นการแสดงออกถึงความฮึกเหิมของประชาชน รวมถึงแถลงการณ์หลังเคารพธงชาติด้วย
ส่วนการยกระดับการชุมนุมหลังจากนี้ จะต้องรอการหารือและการประกาศจาก จตุพร พรหมพันธุ์ และ นิติธร ล้ำเหลือ ซึ่งจะเป็นสองแกนนำสุดท้ายที่จะขึ้นปราศรัยบนเวที