×

เศรษฐกิจไทยจะกลับมาโตสูงได้ ต้องหวังพึ่ง ‘Tech Start-up’ Raisewell Ventures ย้ำ ทุกธุรกิจต้องเรียนรู้และใช้ AI

04.06.2025
  • LOADING...
เศรษฐกิจไทย Tech Startup

“ไม่ว่าประเทศไหนในโลก จะก้าวไปข้างหน้าไม่ได้เลย ถ้าไม่มีเทคโนโลยี” 

 

นี่คือคำกล่าวเปิดประเด็นของ จี๊ป ไคลน์ สตรีไทยผู้คร่ำหวอดในซิลิคอนแวลลีย์กว่า 20 ปี ผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วน กรรมการผู้จัดการ เรสเวลล์ เวนเจอร์ส (Raisewell Ventures) 1 ใน 25 สตรีผู้ทรงอิทธิพลในซิลิคอนแวลลีย์ และคณาจารย์ไทยคนแรกแห่ง UC Berkeley Haas School of Business

 

ในวันที่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความท้าทายในการสร้างการเติบโตสูงระลอกใหม่ เธอเชื่อมั่นว่า ‘Tech Start-up’ คือคำตอบและเป็นความหวังสำคัญ พร้อมย้ำว่าการปรับตัวรับเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI คือสิ่งที่ทุกภาคส่วนไม่อาจหลีกเลี่ยง หากประเทศไทยต้องการก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง

 

ทำไม ‘Tech Start-up’ คือทางรอดของเศรษฐกิจไทย?

ในมุมมองของ จี๊ป ไคลน์ เทคโนโลยีไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นปัจจัยชี้ขาดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การที่บริษัท Tech Start-up สามารถสร้างนวัตกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างมูลค่าเพิ่ม และยกระดับอุตสาหกรรมเดิมๆ ของไทย

 

“ดูอย่าง NVIDIA เมื่อ 10 ปีก่อนมีมูลค่าเพียง 10-15% ของ GDP ไทย แต่ปัจจุบันกลับมีมูลค่าสูงกว่า GDP ไทยถึง 6 เท่า บริษัทจดทะเบียนใน NASDAQ มากกว่า 57% ก็เติบโตมาจากการเป็น Start-up นี่คือพลังของเทคโนโลยีและ Start-up ที่จะช่วยสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับประเทศได้” จี๊ปกล่าว

 

เธอชี้ว่า แม้การลงทุนของ VC อาจจะคิดเป็นเพียงประมาณ 1% ของ GDP สหรัฐฯ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือการสร้างบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่เป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นี่คือภาพที่เธออยากเห็นเกิดขึ้นในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ซึ่งเป็นเหตุผลให้เธอนำประสบการณ์ ความรู้ และเครือข่ายที่สั่งสมจากซิลิคอนแวลลีย์ กลับมาลงทุนผ่านกองทุน Raisewell Ventures

 

ดาวเด่น Tech Start-up ไทยและ SEA ในสายตานักลงทุนโลก

การจะปั้น Tech Start-up ให้ประสบความสำเร็จและสร้างผลกระทบในวงกว้างได้นั้น จี๊ปย้ำว่าไม่สามารถทำได้ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม แต่ต้องเลือกโฟกัสในสิ่งที่ประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีศักยภาพ และเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติ โดย Raisewell Ventures ได้ให้น้ำหนักกับ 3 สาขาหลัก ได้แก่

 

  1. Climate Tech: ครอบคลุม Food Tech และ AgriTech ซึ่งไทยมีจุดแข็ง, เทคโนโลยี EV, Battery, Green Material และแพลตฟอร์มลดคาร์บอน
  2. Manufacturing และ Supply Chain Transition: การใช้ AI และ Platform Tech เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการเป็นฐานการผลิต
  3. Health and Wellness Tech: การใช้ Digital Health และ BioTech เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการแพทย์

 

“กลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ Raisewell ที่ให้ความสนใจ แต่นักลงทุนทั่วโลกก็มองเห็นศักยภาพ และเป็นจุดแข็งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่แล้ว” จี๊ปเสริม 

 

การลงทุนในธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้มุ่งหวังเพียงกำไรทางการเงิน แต่ยังต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจโดยรวมของภูมิภาค

 

AI คลื่นลูกที่สามแห่งการปฏิวัติเทคโนโลยี 

นอกจากการเฟ้นหา Start-up ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายแล้ว ปัจจัยสำคัญที่จะเร่งสปีดการเติบโตของ Tech Start-up และเศรษฐกิจโดยรวมคือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จี๊ปมองว่า AI คือการปฏิวัติทางเทคโนโลยีครั้งที่สาม ซึ่งจะเกิดขึ้นรวดเร็วกว่ายุคแรกอย่าง PC และยุคสองคือ Smartphone อย่างมาก

 

“สิ่งที่พวกเราเห็นเกี่ยวกับ AI ในตอนนี้เป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ทุกคน ทุกธุรกิจต้องเรียนรู้และใช้ AI ช่วยในการทำงาน และต้องเข้าใจข้อจำกัดของมันด้วย AI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และได้กลายเป็นพื้นฐานไปแล้ว ไม่มีบริษัทไหนที่ไม่ใช้ AI”

 

การ Up-skill และ Re-skill บุคลากร รวมถึงการปรับหลักสูตรในสถาบันการศึกษาให้เท่าทัน AI จึงเป็นเรื่องเร่งด่วน เพื่อให้คนไทยสามารถควบคุมและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ

 

การจะให้ Tech Start-up ไทยเป็น ‘New Hope’ ได้อย่างแท้จริง จี๊ปชี้ว่ามีองค์ประกอบสำคัญหลายด้านที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไป

 

อย่างแรกคือ Mindset ผู้ประกอบการ “ผู้ประกอบการที่ดีต้องคิดตั้งแต่วันแรกว่าต้องการจะเป็น Global Company หรืออย่างน้อยก็ Regional Company” จี๊ปย้ำถึงความสำคัญของการมองตลาดให้กว้างกว่า 70 ล้านคนในประเทศ ไปสู่ตลาดภูมิภาคที่มีประชากรกว่า 700 ล้านคน ความเข้าใจใน Local Content และความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคเป็นกุญแจสำคัญ เหมือนความสำเร็จของ Grab ที่สามารถเอาชนะ Uber ในตลาดภูมิภาคได้

 

ถัดมาคือความสามารถในการปรับตัวและแก้ปัญหา (Pain Point) ซึ่ง Start-up ที่ดีต้องสามารถปรับตัวได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต ซึ่งมักจะเป็นช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการเก่งๆ ถือกำเนิดขึ้น และต้องมุ่งแก้ปัญหาที่แท้จริงให้กับผู้ใช้งาน

 

อีกองค์ประกอบที่สำคัญคือระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะเรื่องของกฎหมายหลักนิติธรรม (Rule of Law) ที่เข้มแข็ง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงการปกป้องผู้ประกอบการรายเล็ก

 

การมีสิทธิประโยชน์สำหรับพนักงาน Start-up เช่น Employee Stock Ownership Plan (ESOP) เหมือนในสิงคโปร์ จะช่วยดึงดูดคนเก่งให้เข้ามาร่วมงาน รวมทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐและตลาดทุน ซึ่งในไทยเราเริ่มเห็นองค์กรอย่างตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องปรับตัวเพื่อรองรับการ Dual Listing ของ Start-up ที่มีศักยภาพ 

 

นอกจากนี้ แต่ละประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรจับมือกัน ปัจจุบันนโยบายพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน เราต้องช่วยกันดึงการลงทุนเข้ามาในภูมิภาค ถ้าเราไม่จับมือกัน เราจะแข่งกับใครไม่ได้

 

โอกาสในไทยท่ามกลางวิกฤต

แม้ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคของไทยอาจจะดูไม่สดใสนัก แต่จี๊ปยังคงมองเห็นโอกาส “VC จะเห็นโอกาสใน Crisis ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือ Business Model อาจจะต้องปรับเปลี่ยนไป”

 

จากดีลจำนวนมาก ปัจจุบันมี Start-up ไทยที่มีศักยภาพที่ Raisewell Ventures อาจจะเข้าร่วมลงทุนในเร็วๆ นี้ ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจ Software-as-a-Service (SaaS) ที่มีวิสัยทัศน์ต้องการขยายไปสู่ตลาดโลก และมองหาทักษะองค์ความรู้ระดับสากลเพื่อการเติบโต

 

“ประเทศไทยมีของดีเยอะ ทั้งวิศวกรระดับกลางที่เก่งและค่าแรงยังต่ำกว่า ราคาที่ดินก็ถูกกว่า และรัฐบาลก็เริ่มมีนโยบายที่สนใจมากขึ้น ใช่ เรามีจุดอ่อน แต่ทุกประเทศก็มีจุดอ่อน การจะทำให้ Tech Start-up เป็นความหวังใหม่ของประเทศได้นั้น ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน”

 

การลงทุนใน Tech Start-up จึงไม่ใช่แค่เรื่องของผลตอบแทนทางการเงิน แต่คือการลงทุนในอนาคตของประเทศ คือการสร้าง ‘ทางรอด’ และปูทางให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตสูงได้อย่างยั่งยืนอีกครั้ง ซึ่ง จี๊ป ไคลน์ และ Raisewell Ventures พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันความหวังนี้ให้เป็นจริง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising