วันนี้ (8 มิถุนายน) แทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจากภาคีสีรุ้งเพื่อสมรสเท่าเทียม เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ .. พ.ศ. …. หรือ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม นำโดย พรหมศร วีระธรรมจารี
โดยพรหมศรกล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม ซึ่งการเรียกร้องให้สภาผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมไม่ใช่สิ่งที่เกินกว่าความเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ควรจะได้รับ ซึ่งกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไม่ใช่กลุ่มที่แตกต่างจากบุคคลอื่น มีทั้งความคิด จิตใจที่ต่างจากผู้ใด ซึ่งหากประชาชนได้รับการดูแลจากกฎหมายสมรสเท่าเทียม จะเป็นเครื่องยืนยันถึงสิทธิความเป็นมนุษย์ได้ ซึ่งในต่างประเทศแม้ยังมีอคติเรื่องเพศอยู่ แต่ก็มีการพิจารณาออกกฎหมายเข้ามารองรับความหลากหลายทางเพศให้สามารถอยู่ได้โดยปกติ
“พ.ร.บ.คู่ชีวิต ทอดทิ้งให้เราเป็นพลเมืองชั้นสอง สิ่งที่เราเรียกร้องไม่ได้เกินกว่าปกติ เป็นการเรียกร้องในสิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งควรที่จะได้รับ วันนี้ได้แต่หวังว่าทุกพรรคการเมือง และ ส.ส. ทุกท่าน ตลอดจนประธานรัฐสภา จะมองเห็นและยกระดับความเป็นมนุษย์ให้พวกเรา อย่าถือว่าการให้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเป็นของขวัญ แต่จงถือว่าการให้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมคือการคืนสิทธิ และเติมสิทธิความเป็นคนให้กับพวกเราอย่างสมบูรณ์แบบ” พรหมศรกล่าว
พรหมศรกล่าวต่อไปว่า ความสำคัญของการสมรสเท่าเทียมไม่ใช่เพียงการให้คน 2 คนรักกัน แต่หมายถึงการดำรงอยู่ได้โดยปกติสุข โดยส่วนตัวได้อ่านรายละเอียดในร่างกฎหมายคู่ชีวิตของรัฐบาลมาแล้วหลายรอบ พบว่ามีหลายอย่างที่ขาดหายไป เช่น การเซ็นยินยอม หรือการจัดงานศพที่ไม่สามารถจัดงานให้ผู้ที่อยู่กินกันมา
ทั้งนี้หากประเทศไทยมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม จะไม่ใช่เพียงการเปิดโอกาสให้คู่รัก LGBTQ แต่เป็นสิ่งยืนยันว่าประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าในด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มรูปแบบ ถึงแม้จะไม่มั่นใจว่าวันนี้จะได้รับข่าวดีหรือข่าวร้ายกลับบ้านไป แต่สิ่งสำคัญวันนี้คือมาเพื่อยึดประเด็นว่ากำลังทำอะไรอยู่ กำลังจะทำอะไรต่อไป