จากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในหลายจังหวัด ล่าสุดกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รายงานพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยทั้งหมด 16 จังหวัด พบว่า มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,258 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะนี้กำลังเร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว พร้อมประสาน 54 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้เตรียมพร้อมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์นี้
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยรวม 16 จังหวัด 32 อำเภอ 57 ตำบล 147 หมู่บ้าน 12 ชุมชน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,258 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย แยกเป็น ภาคเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย, เพชรบูรณ์ เสียชีวิต 1 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี, สกลนคร, เลย, นครพนม, หนองคาย, มหาสารคาม, หนองบัวลำภู, นครราชสีมา, ขอนแก่น, บึงกาฬ, มุกดาหาร, ชัยภูมิ และกาฬสินธุ์ ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ซึ่ง ปภ. ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นโดยด่วนแล้ว
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าในจังหวัดพิษณุโลก มีพายุฝนกระหน่ำพัดบ้านเรือนประชาชนใน 2 อำเภอ พังเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน ซึ่งล่าสุดหลายหน่วยงานเร่งสำรวจพื้นที่และจัดสรรงบเพื่อช่วยเหลือแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ 2561 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักบางแห่ง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคกลาง 13 จังหวัด ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ภาคใต้ 7 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ปภ. จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศ ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง