วันนี้ (12 กรกฎาคม) กิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยหลังออกประกาศกรมการขนส่งทางรางเรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 10 ว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นระยะอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 (ฉบับที่ 27) ได้มีข้อกำหนดและข้อปฏิบัติเพื่อป้องกันและยับยั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิดระลอกใหม่ที่ทวีความรุนแรงอยู่ในปัจจุบัน
เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว กรมการขนส่งทางรางจึงออกประกาศมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง เพื่อขอความร่วมมือหน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบถือปฏิบัติเพิ่มเติม ดังนี้
- ลดหรือจำกัดรอบการให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบ ระหว่างเวลา 21.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ภายในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พร้อมทั้งกำหนดตารางการเดินรถที่มีความชัดเจน และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้ใช้บริการทราบโดยทั่วกัน เพื่องดการเดินทางของประชาชนในช่วงเวลาดังกล่าว โดยยกเว้นแก่บุคคลตามที่ระบุในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) ข้อ 4 และ 5
- การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ระหว่างเวลา 21.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ให้กำหนดแผนปฏิบัติงานอันคำนึงถึงความปลอดภัยต่อระบบการเดินรถเท่าที่จำเป็น และมีมาตรการป้องกันโรคโดยเคร่งครัดสูงสุด ดังนี้
- ให้ออกเอกสารรับรองความจำเป็นในการปฏิบัติงานของหน่วยงานแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยพร้อมแสดงเอกสารรับรองดังกล่าวและบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงตนอย่างอื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
- ให้ออกเอกสารรับรองความจำเป็นหรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือการเดินทางสำหรับการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สิ่งพิมพ์ น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณีย์ การขนส่งพัสดุภัณฑ์ สินค้าเพื่อการส่งออกหรือนำเข้า การขนย้ายประชาชนไปยังที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานพร้อมแสดงเอกสารรับรองดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
- จำกัดการบริการระบบรถไฟโดยสารข้ามเขตพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยให้มีการบริการเดินรถเท่าที่จำเป็น ระหว่างวันที่ 12-25 กรกฎาคม 2564
- บริหารจัดการไม่ให้เกิดความหนาแน่นแออัดของผู้โดยสารภายในขบวนรถและภายในสถานี เพื่อให้ปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลได้อย่างเคร่งครัด โดยให้มีการปฏิบัติมาตรการตามความเหมาะสม เช่น การดำเนินมาตรการ Group Release ภายในสถานี และการเพิ่มขบวนรถเสริมหรือเพิ่มความถี่การบริการในช่วงเวลาเร่งด่วน เป็นต้น
- กำกับดูแล ตรวจติดตาม และขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ได้แก่ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (D-Distancing) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และงดสนทนาขณะใช้บริการระบบขนส่งทางราง (M-Mask Wearing) ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งเมื่อเข้าและออกจากระบบ (H-Hand Washing) ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่จุดคัดกรอง (T-Testing) และใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ (T-Thaichana)
- ให้มีการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในกลุ่มแรงงานก่อสร้างภายในพื้นที่โครงการก่อสร้างระบบขนส่งทางรางที่อยู่ในความรับผิดชอบ และให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด
ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป