สถานการณ์พิษสุนัขบ้าในปีนี้ดูจะน่ากังวลมากกว่าทุกปี หลังกรมควบคุมโรคเปิดเผยว่า ที่ผ่านมายังมีการตรวจพบสัตว์ที่สงสัยว่าจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอย่างต่อเนื่อง โดย 2 เดือนแรกของปี 2561 พบสัตว์ติดเชื้อแล้ว 251 ตัว สูงกว่าระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 1.5 เท่า โดยสุนัขเป็นสัตว์ที่ติดเชื้อมากที่สุด 90% นอกจากนั้นยังพบในแมวและโคด้วย
จากข้อมูลของกรมปศุสัตว์พบว่า จังหวัดที่พบสัตว์ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าสูงสุด ได้แก่ ร้อยเอ็ด, สุรินทร์, ยโสธร, กาฬสินธุ์ และอำนาจเจริญ โดยมีสาเหตุจากประชาชนไม่นำสุนัขและแมวไปรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ปล่อยสัตว์เลี้ยงนอกบ้าน ทำให้เสี่ยงต่อการถูกกัดจากสัตว์ที่มีเชื้อ และ ขาดความตระหนักถึงการป้องกันการติดเชื้อ เช่น เมื่อถูกลูกสุนัขหรือลูกแมวกัด ข่วน เลีย ก็มักจะคิดว่าไม่เสี่ยง และไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค
โดยล่าสุดกรมปศุสัตว์ได้ประกาศเขตพื้นที่สีแดงโรคพิษสุนัขบ้าไปแล้ว 13 จังหวัด เพราะอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง ได้แก่ สุรินทร์, ชลบุรี, สมุทรปราการ, ฉะเชิงเทรา, น่าน, บุรีรัมย์, อุบลราชธานี, เชียงราย, ร้อยเอ็ด, สงขลา, ระยอง, ตาก และศรีสะเกษ โดยขณะนี้มีผู้ได้รับเชื้อและเสียชีวิตแล้ว 3 คน นอกจากนี้ยังมีอีก 42 จังหวัดที่ยังต้องเฝ้าระวังและจัดให้อยู่ในพื้นที่สีเหลือง โดยทางกรมปศุสัตว์ตั้งเป้าว่าปีนี้จะประกาศให้ 20 จังหวัดเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า
โดยกรมควบคุมโรคขอให้ประชาชนตระหนักถึงการป้องกัน เริ่มตั้งแต่การเลี้ยงสุนัขและแมวในจำนวนที่พอเหมาะ คุมกำเนิดด้วยการทำหมัน พาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี เลี้ยงในบริเวณบ้าน อย่าปล่อยออกไปนอกบ้านโดยไม่ดูแล เพราะหากถูกหมาบ้ากัดก็อาจติดโรคพิษสุนัขบ้า
ส่วนเมื่อประชาชนถูกสุนัขและแมวกัดหรือข่วน ให้รีบใช้สบู่และน้ำสะอาดล้างบริเวณบาดแผลหลายๆ ครั้งอย่างเบามือ ใส่ยาโดยทาหลังจากการล้างแผลและซับให้แห้ง กักสุนัขและแมวไว้ 10 วัน จากนั้นให้รีบมาพบแพทย์เพื่อพิจารณาการตัดสินใจรับวัคซีน และต้องมาฉีดวัคซีนให้ครบตามนัดทุกครั้ง
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ขอให้ช่วยกันสอดส่องสัตว์แปลกหน้าที่มีอาการดุร้ายและแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์โดยเร่งด่วน หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422