×

‘แรบบิท แคช’ รุกดิจิทัลเลนดิ้ง ปล่อยกู้แม่ค้าออนไลน์ เคาะดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน อนุมัติไวใน 10 นาที ตั้งเป้ายอดสินเชื่อปีแรก 2-3 พันล้านบาท

27.10.2021
  • LOADING...
Rabbit Cash

บริษัท แรบบิท แคช จำกัด เร่งพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเลนดิ้ง ปล่อยกู้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เสริมสวัสดิการให้ลูกค้ามนุษย์เงินเดือน ผนึกพันธมิตรทั้งบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) ดึงฐานข้อมูลมาวิเคราะห์สินเชื่อ ภายใต้กระบวนการพิจารณาสินเชื่อของบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน อนุมัติไวใน 10 นาทีบนแอปพลิเคชันในมือถือ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปีแรก 2-3 พันล้านบาท และเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาทในปี 2566 

 

รัชนี แสนศิลป์ชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แรบบิท แคช จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันวิถีชีวิตคนไทยเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลไลฟ์อย่างรวดเร็ว เห็นได้จากสถิติการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 69% ของประชากร การช้อปปิ้งออนไลน์เป็นอันดับ 4 ของโลก 

 

ขณะเดียวกันยังพบว่าคนไทยมีการใช้โมบายแบงกิ้งมากที่สุดในโลก จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่า ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจำนวนบัญชีเงินฝากที่ผูกกับโมบายแบงกิ้งกว่า 76 ล้านบัญชี มียอดธุรกรรมกว่า 1.4 หมื่นล้านรายการต่อเดือน ค่าเฉลี่ยใช้โมบายแบงกิ้งอย่างน้อยเดือนละ 19 ครั้ง สะท้อนว่าประเทศไทยไม่สามารถปฏิเสธธุรกรรมทางการเงินบนดิจิทัลได้แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าประเทศไทยยังมีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP สูงถึง 89% หากมองลึกเข้าไปเราพบว่าเป็นหนี้นอกระบบ 5% ซึ่งหนี้นอกระบบที่ยังอยู่ในระดับสูง สะท้อนว่าพัฒนาการที่เกิดขึ้นในโลกการเงินยังไม่สอดคล้องวิถีชีวิตคนไทย 

 

บริษัทจึงได้เปิดตัว ‘แรบบิท แคช (Rabbit Cash)’ สินเชื่อดิจิทัลแนวคิดใหม่ ที่ใช้ Digital Footprint ในการพิจารณาให้สินเชื่อ โดยได้ร่วมกับบริษัทพันธมิตรประกอบด้วย บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) ในการนำข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) จากทั้งแรบบิทซึ่งเป็นบริษัทในเครือบีทีเอส และจากบริษัทพันธมิตรมาใช้ในการวิเคราะห์สินเชื่อ โดยมีบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ถือหุ้นและพันธมิตรให้การสนับสนุนความรู้ กระบวนการพิจารณาสินเชื่อ และต้นทุนการเงินในระดับต่ำ ทำให้เราสามารถอนุมัติสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล 100% ตั้งแต่ต้นจนจบ

 

“วันนี้สังคมไทยเปลี่ยนไป เด็กจบใหม่ไม่อยากมาทำงานบริษัท อาชีพอิสระจะมากขึ้น ทั้งบล็อกเกอร์ หรือผู้ค้าออนไลน์ เราก็ต้องทำผลิตภัณฑ์ให้รองรับกลุ่มคนที่ไม่มีสลิปเงินเดือน ซึ่งที่ผ่านมาการกู้เงินจากธนาคารมีความยุ่งยาก หากไม่มีสลิปเงินเดือนก็ต้องมีสเตทเมนท์ หรือต้องเคยมีเครดิตมาก่อน แต่แรบบิทมีฐานข้อมูลลูกค้าจำนวนมากที่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์และเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้ลูกค้าได้ เพราะบีทีเอสกรุ๊ปได้ให้บริการลูกค้าหลายแง่มุม และยังมีข้อมูลจากพันธมิตรที่จะนำมาใช้ และช่วยให้ลูกค้าและพนักงานของพันธมิตรได้มีเครื่องมือทางการเงินในการจัดการกระแสเงินสดของตัวเองได้เหมาะสมมากขึ้น ตอบโจทย์บริษัทที่จะให้ความสำคัญกับการให้บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย รวดเร็ว และเท่าเทียม”

 

ทั้งนี้ วงเงินสินเชื่อที่ลูกค้าจะได้รับจะเป็นไปตามระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยลูกค้าที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท จะได้รับวงเงิน 5 เท่าของรายได้ หากรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท จะได้รับวงเงินไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้ อัตราดอกเบี้ยในเบื้องต้นจะอยู่ที่ 1.25% ต่อเดือน    

 

อย่างไรก็ตาม จากการที่บริษัทได้เริ่มทดลองให้สินเชื่อแรบบิท แคช กับฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีและสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทคาดว่าหลังจากได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินเชื่อจาก ธปท. จะเปิดให้บริการสินเชื่ออย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ทั้งสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย หรือสินเชื่อนาโน, สินเชื่อสวัสดิการ, สินเชื่อ Payday Loan, สินเชื่อผ่อนชำระ Buy Now Pay Later ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะเห็นยอดสินเชื่อในปี 2565 ประมาณ 2-3 พันล้านบาท และในปี 2566 จะปล่อยสินเชื่อได้ถึง 5 พันล้านบาท

 

รัชนีกล่าวว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้มีเงินเดือนผ่านบริษัทฮิวแมนิก้า และพนักงานของเคอรี่  ส่วนกลุ่มผู้ไม่มีเงินเดือน เช่น ลูกค้าของเคอรี่ที่มียอดขายสินค้าออนไลน์ แต่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ได้ แต่ข้อมูลที่มีอยู่กับเคอรี่เป็นฐานข้อมูลที่ทำให้ลูกค้าสามารถเข้ามาสมัครขอสินเชื่อผ่านทางแอปพลิเคชันได้เอง ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีในการรับเงินสินเชื่อ เปรียบเสมือนการกดเงินผ่านโมบายแบงกิ้งที่ลูกค้าสามารถบริหารจัดการเงินเข้า-ออกได้เอง เนื่องจากวงเงินที่ได้จะเป็นวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนที่เบิกใช้ได้ตามความต้องการ หากไม่กดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ย

 

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของความกังวลในการนำข้อมูลลูกค้ามาใช้นั้น จะเป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) โดยจะต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า ขณะเดียวกัน กระบวนการทั้งหมดผ่านดิจิทัลอย่างแท้จริง มีความเชื่อถือได้และปลอดภัยสูงสุด

 

วราวุธ นาถประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันเคอรี่มีลูกค้ากว่า 10 ล้านราย ซึ่งเราพบว่าลูกค้าเราต้องการใช้สินเชื่อ แต่การเป็นผู้ค้าออนไลน์ ไม่ได้มีรายได้ประจำ จึงเข้าถึงสินเชื่อได้ยาก ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาบริษัทจึงได้ลองนำโปรแกรมสินเชื่อพิเศษให้กับลูกค้า ด้วยวงเงินสินเชื่อสูงสุด 1 แสนบาท อัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือนผ่านแอปพลิเคชันของเคอรี่ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากสมาชิกเข้ามามาก โดยในไตรมาสแรกปีหน้า บริษัทจะนำสินเชื่อสวัสดิการจากแรบบิท แคช มาให้พนักงานประจำและผู้ส่งสินค้าของเคอรี่ได้ใช้ในการบริหารจัดการบุคลากรด้วย เช่น พนักงานที่มีผลงานที่ดีก็จะได้รับวงเงินสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ เป็นต้น

 

สุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์หลังโควิดทำให้เราเห็นกระแสการลาออกเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกว่า 25% ทั่วโลก สาเหตุการลาออกหนึ่งคือเรื่องของผลประโยชน์และสวัสดิการ และจากประสบการณ์การทำงานบริหารทรัพยากรบุคคล เราพบว่าปัญหาหนึ่งที่ทำให้พนักงานไม่มีความสุขคือเรื่องของการมีหนี้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยสูง และไม่สามารถบริหารจัดการได้ จนบางรายถึงขั้นโดนบังคับคดี ความร่วมมือกับแรบบิท แคช เพื่อนำเสนอสินเชื่อสวัสดิการ หรือ Welfare Loan ให้บริษัทที่เป็นลูกค้าของฮิวแมนิก้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X