Pyra ศิลปินสาวสุดแซ่บที่โลกต้องจับตามอง ในซิงเกิลล่าสุด Yellow Fever ที่บอกว่าผู้หญิงไม่ใช่ ‘รางวัล’ ของใคร

“I am not your fetish, not your trophy” – Pyra

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินรุ่นใหม่ที่ ‘โลก’ กำลังจับตา สำหรับ พิมพ์-พีรลดา สุขวัฒก์ หรือ Pyra หลังจากปล่อยผลงานเพลงแนว ดิสโทเปียน ป๊อป (Dystopian Pop) มาเป็นกระบอกเสียงให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาในสังคมที่ถูกกลบซ่อนไว้ ตั้งแต่การเสียดสีสังคมบริโภคนิยมในเพลง Plastic World การพูดถึงโรคซึมเศร้าในเพลง Dystopia และการสะท้อนการเมืองในเพลง Bangkok

ล่าสุด Pyra มาพร้อมกับ Yellow Fever ที่หยิบประเด็นทางเพศที่สาวเอเชียต้องเจอมาเปิดโปงให้โลกได้รับรู้ผ่านเพลงของเธอ

โดยเป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านสายตาของสาวเอเชีย ที่ไม่ใช่แค่เพียงหญิงไทยเท่านั้น เพราะ Pyra ได้มีโอกาสร่วมงานกับศิลปินสาวอีก 2 ท่าน คือ ราเมนเกิร์ล (Ramengvrl) ศิลปินฮิปฮอปสาวจากอินโดนีเซีย และ ยาโยอิ ไดมอน (Yayoi Daimon) แรปเปอร์สาวจากญี่ปุ่น เพื่อเป็นตัวแทนเสียงของผู้หญิงทั่วทั้งเอเชีย ที่ไม่ว่าจะชนชาติไหนก็ยังคงถูกกดทับด้วยบริบททางสังคมที่มีความเอนเอียงให้กับค่านิยมชายเป็นใหญ่อยู่เสมอ

พาร์ตเนื้อเพลงเป็นการอธิบายความเข้าใจผิดที่ผู้หญิงเอเชียหลายคนต้องเจอ เช่น การที่หลายคนคิดว่าพวกเธอเป็นแค่เครื่องระบายความต้องการทางเพศที่มีราคาต้องจ่าย เป็น ‘รางวัล’ ที่ฝ่ายผู้หญิงต้องมอบให้ เป็นของสะสมประดับบารมี หรือเป็นเป้าหมายให้พิชิต หรือสามารถนำเรื่องเพศมาล้อเลียน สร้างความคุกคามเป็นเรื่องตลกได้แบบไม่ต้องคิดอะไร และเสียงของทั้ง 3 สาวในเพลงนี้ คือเสียงที่บอกว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเธอ ผู้หญิงเอเชีย และผู้หญิงทั้งโลก จะตะโกนถึงความผิดปกติเหล่านี้ออกมาดังๆ

ในพาร์ตมิวสิกวิดีโอ เริ่มต้นด้วยความหมายของชื่อเพลง Yellow Fever ที่หมายถึง อาการชื่นชอบไปจนถึง ‘คลั่ง’ อยากได้ อยากครอบครอง จากผู้ชายจากทวีปอื่นที่มีต่อผู้หญิงเอเชีย ตามด้วยภาพนักท่องเที่ยวชาย 5 คน ในสถานลึกลับที่เดาได้ไม่ยากว่ามาเพราะจุดประสงค์อะไร

พวกเขาคาดหวังอยากได้ความสุขจากสิ่งที่พวกเขา ‘หลงใหล’ (แต่เป็นความหลงใหลที่คิดว่าตัวเองมีอำนาจเหนือกว่าทุกอย่าง) และสิ่งที่ได้รับกลับไปก็เป็นประสบการณ์ที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม แต่จะจดจำในแง่ไหนต้องไปรับชมในมิวสิกวิดีโอ

นี่คือยุค 2021 ที่เรื่อง ‘เพศ’ ควรจะก้าวหน้าไปไกลถึงความหลากหลายและเท่าเทียม มากกว่าการตามหาว่าใครเป็นใหญ่ ตอบแทนกันแบบไหน หรือต้องเดินเกมอย่างไรได้แล้ว

สำหรับจุดเริ่มต้นเส้นทางดนตรีของ Pyra เธอเริ่มต้นความฝันของเธอตั้งแต่อายุ 9 ขวบ มีโอกาสได้เรียนร้องเพลงและขึ้นเวทีประกวด แล้วชนะทุกการประกวดหลายๆ คนคงยังไม่รู้ว่า เพลง ค่าน้ำนม และ ดอกไม้ในหัวใจ เวอร์ชันอัลบั้ม ให้แม่ อัลบั้มพิเศษสำหรับวันแม่ของแกรมมี่ Pyra ก็เป็นคนร้อง

(https://youtu.be/irOzJW6o5m0)

จนเมื่ออายุ 16 ปี เมื่อมีโอกาสได้ไปแอลเอ เธอยังไม่ทิ้งความฝัน เริ่มเรียนรู้การทำเพลง โดยมุ่งมั่นว่าจะต้องโปรดิวซ์เพลงด้วยตัวเองให้ได้ เธอพยายามวิเคราะห์จุดที่ศิลปินหญิงคนอื่นยังไม่มี เพื่อสร้างจุดแข็งให้กับตนเอง

หลังจาก Pyra ได้ใช้เวลาเรียนรู้และเริ่มทำเพลงด้วยตัวเอง เธอก็ได้เข้าไปสังกัดในค่ายเพลงแห่งหนึ่ง แต่ค่ายกลับไม่ให้ออกผลงาน เธอจึงขอออกไปค่ายใหม่ เธอก็ได้ทำเพลงในฐานะศิลปินกลุ่ม และเป็นเพลงแนว EDM ซึ่งยังไม่ตรงกับความต้องการ เธอจึงขอออกมาเป็นศิลปินอิสระ จนกระทั่งได้มาเป็นศิลปินในสังกัด Warner Music Asia

ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่า ที่มาของชื่อ ‘Pyra’ นั้นมาจากอะไร เธอก็เคยได้อธิบายเอาไว้ว่า มาจากสองสองพยางค์แรกของชื่อจริง Pera ที่ให้เพื่อนชาวต่างชาติเรียก แต่พอเป็นคนไทยจะกลายเป็น ‘พีระ’ ที่ดูแมนมากๆ กับอีกเหตุผลที่เธออยากให้มีความหมายคล้ายคำว่า ‘Pyro’ ที่แปลว่าไฟ แต่ถ้าเป็นศัพท์ที่มีความเป็นผู้หญิงส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วย A เธอเลยเปลี่ยนชื่อเป็น Pyra

“มันเป็นชื่อสองพยางค์แรกของชื่อจริงเรา ชื่อ พีรลดา แต่ก่อนเราตัดเป็น Pera แล้วก็ให้เพื่อนฝรั่งเราทุกคนเรียกเพร่า แต่พอให้เพื่อนคนไทยเรียก เขาเรียก พีระ แมนเลย แต่ตรงนี้มันแค่ประเด็นเล็กๆ เพราะเรามาเห็นว่าเปลี่ยนเป็น Pyra ดีกว่า เพราะเหมือน Pyro ที่แปลว่า ไฟ ถ้าเป็นศัพท์ที่มีความเป็นผู้หญิงส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วย A เลยเป็น Pyra”

เพราะความมุมานะและแพสชันอันร้อนแรงดั่งไฟ ทำให้เธอเป็นศิลปินไทยคนแรกที่ได้ไปเล่นในเทศกาล Burning Man หนึ่งในเทศกาลไลฟ์สไตล์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แถมยังเคยทำงานร่วมกับ Sean Hamilton โปรดิวเซอร์ที่เคยทำงานให้กับ Justin Bieber, H.E.R.

รวมถึงยังได้รับรางวัลทางดนตรีอีกมากมาย ได้แก่ JOOX Spotlight Artist 2018, Apple Music Best New Artist 2016, 1st Redbull Music Artist from Thailand, Winner of Sunkist Freshly Music Contest 2018

รวมทั้งรางวัลล่าสุดที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในลิสต์ NME 100 ที่จัดขึ้นโดย NME เว็บไซต์ที่นำเสนอเรื่องราวของวงการดนตรีจากประเทศอังกฤษ เพื่อแนะนำ 100 ศิลปินจากทั่วทุกมุมโลกที่น่าจับตามองในปี 2021