จากกรณีที่ทวิตเตอร์ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องการตรวจจับผู้ใช้งานที่เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการไอโอ (Information Operations) โดยระบุว่าไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ประเทศ ได้แก่ อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย คิวบา รัสเซีย และไทย โดยจากจำนวนบัญชีไอโอที่ตรวจพบทั้ง 1,594 บัญชีในครั้งนี้รวมของที่พบในไทย ถูกระงับการใช้งานอย่างถาวรไปแล้ว 926 บัญชี ซึ่งพบเครือข่ายที่มีส่วนร่วมในปฏิบัติการไอโอและสามารถเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกองทัพบกไทยนั้น
ล่าสุด (9 ตุลาคม) พล.ท. สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้แล้วว่ามีการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อการประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบก โดยเฉพาะงานช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ เท่านั้น ยืนยันว่ากองทัพบกไม่มีนโยบายทำทวิตเตอร์อวตารเพื่องานไอโอ
ขณะที่ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่าส่วนตัวรู้สึกแปลกใจที่ทวิตเตอร์ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ แทนที่จะดำเนินการตามคำสั่งศาลของกฎหมายไทยที่ได้มีคำสั่งให้ปิดกั้นหรือลบบัญชีของผู้ที่โพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันหลักของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้ส่งคำสั่งศาลไปแล้ว แต่ทวิตเตอร์ยังเพิกเฉย ไม่ทำการลบให้จำนวน 65 รายการ และอีก 1 ชุดที่กำลังจะส่งไปเพิ่มเติมจำนวน 253 รายการ
ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ได้เรียกร้องไปยังทวิตเตอร์ให้ดำเนินการตามคำสั่งศาลและเคารพกฎหมายของไทยอย่างจริงจัง เพื่อแสดงความจริงใจในการทำงานที่โปร่งใสของทวิตเตอร์เอง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
