คนหนึ่งไม่มีหัวใจเพราะเจ็บปวดจากความสูญเสีย
คนหนึ่งเดินเข้ามาหวังปลอบประโลมหัวใจดวงที่เคยแหลกสลาย แต่สุดท้ายถูกทำลายเพียงเพราะ ‘ความแตกต่าง’ จนอาจกลายเป็นคน ‘ไม่มีหัวใจ’ รายต่อไป
“เหลือเพียงตัว แต่ไม่มีจิตใจ ยังมีชีวิตก็ไร้วิญญาณ”
อาจดูเหมือนประโยคที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เมื่ออยู่ในบริบทของเพลง ‘คนไม่มีหัวใจ’ ที่ถูกเล่าพร้อมกับภาพในมิวสิกวิดีโอที่หยิบยกประเด็นเรื่อง LGBTQ มาเป็นเส้นเรื่องหลัก ทำให้เรารู้สึกว่าผลงานล่าสุดของ Pun Basher ทำหน้าที่ได้ไกลกว่าเพลงอกหัก แต่เป็นเพลงที่สะท้อนเรื่องความไม่เท่าเทียมได้อย่างตรงไปตรงมา และช่วยย้ำว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง
เรื่องราวในมิวสิกวิดีโอเริ่มต้นจากภาพครอบครัวเล็กๆ ที่ควรจะอบอุ่น ‘แม่’ ตื่นมาเห็นภาพนั้นอยู่บนหัวเตียงทุกวัน ก่อนที่จะลงมาแต่งตัวให้เด็กน้อยที่อยู่ในรูป ยิ้ม หัวเราะ สนุกสนานร่าเริง มี ‘พ่อ’ คนเดียวกับที่อยู่ในรูปมองดูอยู่ห่างๆ ด้วยสายตาหวาดระแวง เพียงเพราะผู้หญิงในรูปใบนั้นเป็นอีกคนที่ไม่ใช่เธอ
แม้รู้ดีว่าไม่ใช่คนในรูป แต่นางเอกก็พยายามทำหน้าที่ทุกอย่างในฐานะ ‘แม่’ และ ‘ภรรยา’ ให้ดีที่สุด เธอขับรถไปส่งลูกชายที่โรงเรียนในทุกๆ เช้า ป้อนข้าว หยอกล้อ กิน ซักผ้า ขัดห้องน้ำ ทำงานบ้าน คอยดูแลเรื่องอาหาร เอากาแฟไปเสิร์ฟให้ ‘สามี’ หากแต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงความเฉยชาเหมือนเป็นคนไม่มีหัวใจ จากเหตุการณ์ที่ภรรยาคนก่อนจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ
“มองดูคงรู้ไม่ถึงข้างใน ว่ามันตายทั้งเป็น ในวันที่เธอทิ้งกัน”
เพราะความเจ็บปวดแหลกสลายทำให้เขาพยายามค้นหาทางออก และหวังว่าจะมีใครสักคนหนึ่งมาช่วยประกอบเศษหัวใจดวงนี้ขึ้นมาอีกครั้ง จนได้มาพบกับนางเอกที่ทำงานอยู่ในร้านแห่งหนึ่ง
ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น ตั้งแต่วันที่ ‘คนไม่มีหัวใจ’ เลือกที่จะหาใครเข้ามาเติมเต็มในวันที่ยังไม่พร้อม เราไม่ได้สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนวันนั้นและหลังจากนั้น ทั้งคู่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์พร้อมหรือเปล่า เพราะองค์ประกอบต่างๆ ไม่ใช่สิ่งสำคัญ เมื่อคนทั้งคู่ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันในเวลาต่อมา
แน่นอนว่ารวมถึงเรื่อง ‘เพศ’ ของฝ่ายหญิงที่ไม่ควรมีความสำคัญในโลกที่เจริญแล้ว แต่กลับส่งให้ผลนางเอกที่มีคำนำหน้าชื่อเป็น ‘นาย’ ในบัตรประชาชนต้องสูญเสียสิทธิของความเป็นมนุษย์หลายๆ อย่าง อันเป็นจุดสะท้อนภาพความไม่เท่าเทียมที่ยังคงสร้างความ ‘แปลกแยก’ และเจ็บปวดไม่มีวันสิ้นสุด
เจ็บปวดที่ในรั้วโรงเรียนยังไม่สามารถสร้างจิตสำนึกในเรื่องความหลากหลายและเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในหัวใจของเด็กๆ ที่ควรไร้เดียงสาและบริสุทธิ์
เจ็บปวดที่ความไม่เท่าเทียมนั้นทำให้ลูกชายตัวน้อยที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถูกเพื่อนล้อเลียน ทำร้ายร่างกายจนหัวแตก เพียงเพราะมีแม่ที่ไม่เหมือนตัวเอง
เจ็บปวดเมื่อพยาบาลเห็นบัตรประชาชน เราชอบที่สายตาของพยาบาลไม่มีท่าทีตกใจ หากแต่เป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า ความเห็นใจ เพราะรู้ดีว่าเพียงแค่คำสั้นๆ นั้นทำให้เธอไม่สามารถใช้สิทธิ์ของความเป็น ‘แม่’ หรือผู้ปกครองเซ็นยินยอมให้รับการรักษา ‘ลูกชาย’ คนนี้ได้
นำไปสู่ความเจ็บปวดในระบบโครงสร้างที่ยังไม่ยอมรับในความหลากหลาย ยังไม่เห็นว่า ‘มนุษย์’ ทุกเพศมีความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง อดคิดไม่ได้ว่าภาพในมิวสิกวิดีโอจะเป็นอย่างไร หากวันนี้เรามี ‘พ.ร.บ. คู่ชีวิต’ (ที่ปรับแล้วปรับอีก) ที่สร้างการ ‘สมรสเท่าเทียม’ ได้อย่างสมบูรณ์
เพราะข้อจำกัดที่เป็นอยู่ตอนนี้ทำให้เธอไม่มีสิทธิ์ในการเป็นคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิ์ในการ ‘รับบุตร’ และแน่นอนว่าไม่สามารถเซ็นรับรองให้รักษา ทั้งที่ลูกชายยืนอยู่หน้าห้องหมอ
ไม่จำเป็นต้องยืนอยู่ข้างฟากการเมืองฝ่ายไหน เพียงแค่มองตากันด้วยนามแห่งความรัก มองด้วย ‘หัวใจ’ ของเพื่อนมนุษย์ เราคงสังเกตได้ไม่ยากว่าทุกเพศล้วนมีคุณค่าที่ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
เพราะถ้าลองขีดเส้นลากความเชื่อมโยงกันทั้งหมด เราจะเห็นว่าการที่นางเอกมิวสิกวิดีโอไม่สามารถเป็น ‘แม่’ ที่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เธออยู่เป็นได้เพียงสถานะ ‘ตัวแทน’ ของคนที่จากไป โดยไม่มีวันได้ขึ้นมาเป็นตัวจริง
เราจะเห็นจากในมิวสิกวิดีโอว่าหลายๆ ชุดที่นางเอกใส่คือชุดแบบเดียวกับที่ภรรยาและแม่คนก่อนเคยใส่แทบทั้งหมด เราไม่รู้ว่านั่นเป็นความต้องการของฝ่ายชายที่อยากรู้สึกถึงภรรยาคนก่อน หรือเป็นความยินยอมของตัวนางเอกที่รู้ตัวดีว่าด้วย ‘ข้อจำกัด’ ที่มีทำให้เธอไม่สามารถเข้ามาแทนได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นขอแค่ ‘ใกล้เคียง’ คนคนนั้นให้มากที่สุดก็ยังดี
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ไม่ควรมีใครต้องอยู่ในสถานะ ‘ตัวแทน’ ของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะทุกคนมีชีวิต มีหัวใจ มีคุณค่า มีความแตกต่างหลากหลาย มีศักยภาพมากพอที่จะเป็นสิ่งใดก็ได้ที่อยากจะเป็น
“แม่”
คำพูดเพียงหนึ่งพยางค์ที่กลั่นออกมาทั้งน้ำตาของลูกชายเมื่อรู้ว่ากำลังจะถูกพรากจากอ้อมอก เพียงพอหรือเปล่าที่ยืนยันว่าถึงแม้ไม่ได้ผูกพันกันด้วยสายเลือด แต่เขาก็รัก ‘แม่’ คนนี้โดยไม่สนว่าเธอจะเป็นเพศไหน
หากเราเชื่อว่า ‘ความรัก’ มีพลังที่ยิ่งใหญ่ เหตุใดการมีชีวิต มีความรัก มีลูกที่รักและอยากดูแลให้เขาเติบโตขึ้นมาด้วยหัวใจ
จึงต้องใช้ ‘คำนำหน้า’ และรอให้ ‘ใคร’ มาช่วยยืนยัน
รับชมมิวสิกวิดีโอ คนไม่มีหัวใจ – Pun Basher ได้ที่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์