เช้าวันนี้ ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ ได้เปิดเผยถึงนโยบายพรรคเพื่อชาติที่เน้นและให้ความสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำให้ประชาชน ตลอดจนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสให้คนจน ส่งเสริมเกษตรกรฐานราก และสร้างมาตรฐานด้านสาธารณสุขให้คนไทย
ดร.รยุศด์ บอกว่า ด้วยความที่พรรคเพื่อชาติเป็นพรรคของประชาชน เป็นพรรคของคนจน นโยบายของเราก็จะเน้นช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ นั่นก็คือคนจน เนื่องจากเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีอันดับความเหลื่อมล้ำสูง อีกทั้งยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล่าสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกแล้ว
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ รวมถึงกองเชียร์พรรคอย่าง นายจตุพร พรหมพันธ์ุ และนายยงยุทธ ติยะไพรัช ทุกท่านต่างให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจนของประชาชนในประเทศมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะต้องการให้คนจนหมดไป ทุกคนต้องกินดีอยู่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข แม้บางคนชีวิตจะไม่มีโอกาสที่จะสร้างตัวเองให้รวยขึ้นมาได้
แต่นโยบายของพรรคเพื่อชาติจะเน้นการให้โอกาส สร้างโอกาสให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ รวมทั้งจากการลงพื้นที่ รับฟังปัญหาจากประชาชนทั่วประเทศ ก็ได้นำเอาปัญหาเหล่านั้นมาปรับใช้ และออกเป็นนโยบายที่จะนำมาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ดังนี้
1. นโยบายยกระดับโรงพยาบาลตำบลให้มีความทันสมัย
สิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งของมนุษย์คือ คุณภาพชีวิต สุขภาพกายและใจที่ดี นโยบายด้านสาธารณสุขจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผ่านมารัฐบาลในอดีตก็ได้มีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เป็นที่ชื่นชมกันมาก สามารถช่วยเหลือประชาชนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตได้เป็นอย่างดี นโยบายใดเป็นสิ่งที่ดีก็ควรคงไว้ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาเราก็ควรแก้ไข ซึ่งปัญหาของโครงการดังกล่าวคือ การเข้าถึงสถานพยาบาล โดยเฉพาะสถานที่ห่างไกล ที่มักจะมีโรงพยาบาลประจำตำบลเล็กๆ ที่มักจะมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ หากต้องการรักษาบางโรคต้องส่งต่อเข้าโรงพยาบาลใหญ่ในเมือง ซึ่งก็มักจะมีปัญหาเรื่องของการเดินทางที่ไม่สะดวก ลำบาก ทางพรรคเพื่อชาติ จึงได้เสนอนโยบายพัฒนาโรงพยาบาลประจำตำบลทุกตำบล ให้มีเครื่องไม้เครื่องมือ สถานะทัดเทียม ได้มาตรฐาน เหมือนโรงพยาบาลในตัวเมือง มีอุปกรณ์ ห้องผ่าตัดให้ครบ ซึ่งประมาณการไว้ว่า จะใช้งบประมาณประมาณที่ละ 3 ล้านบาท ทั้งประเทศมี 7,000 กว่าแห่ง รวมแล้วใช้เงิน 2 หมื่นล้านเศษ น้อยกว่าซื้อเรือดำน้ำมาเกยตื้นเล่นด้วยซ้ำไป
2. นโยบาย 1 ตำบล 1 นักศึกษาแพทย์
เมื่อมีโรงพยาบาลที่ดีแล้ว แต่ในชนบทก็มักจะมีปัญหาอีกอย่างคือ ขาดบุคลากรทางการแพทย์ เราจึงได้คิดนโยบาย ‘หนึ่งตำบล หนึ่งนักศึกษาแพทย์’ โดยจะให้ทุนกับนักเรียนที่ขาดโอกาส ขาดทุนทรัพย์ในแต่ละตำบลทั่วประเทศได้เรียนแพทย์ โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเด็กเรียนเก่ง ขอเพียงมีใจอยากเรียนและกลับมาทำงานใช้ทุนที่บ้านเกิด ไปเป็นหมอให้กับตำบลและท้องถิ่นของตน ด้วยเราทราบดีว่ามนุษย์และเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการที่ไม่เท่ากัน ช้าเร็วต่างกัน อาจจะด้วยอาหาร การเลี้ยงดูที่ต่างกันของแต่ละบ้าน แต่ละพื้นที่ เด็กเรียนไม่เก่ง เด็กเรียนช้าไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เราต้องให้โอกาสพวกเขา จะไม่มีการตัดสินใครด้วยคำว่าโง่ ว่าแพ้อีก พรรคเพื่อชาติจะเลิกล้มระบบแพ้คัดออก และโง่คัดออก แนวคิดเหล่านี้ต้องหมดไปจากสังคมไทย เพื่อให้โอกาสและสร้างความเท่าเทียมให้กับคนจนทั่วทั้งประเทศ
3. นโยบายโฉนดใบเดียว
โฉนดใบเดียวคือ การยกเลิกเอกสารสิทธิ์ทุกประเภท อาทิ สปก. นส.2 และอื่นๆ ให้เหลือเพียงโฉนดเท่านั้น อาจจะมีแบ่งแยกเป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อการปศุสัตว์ หรือเพื่อการประมง เป็นต้น รวมถึงจะใช้มาตราส่วนเดียวกันในโฉนดทุกประเภทด้วย ลดปัญหาความขัดแย้ง และเพิ่มความเท่าเทียมกัน ให้กับเจ้าของโฉนดทุกคน จะไม่มีใครต้องอายใครเวลาถือโฉนดไปกู้เงิน มีค่า มีศักดิ์ศรีเท่ากันกับโฉนดทุกใบ ไม่เหมือนเอกสารสิทธิ์จำพวก สปก. และ นส.2 ที่มีค่าน้อยกว่าโฉนด
4. นโยบายยกเลิกการผูกขาดตัดตอนที่เป็นสัมปทานที่กีดขวางการพัฒนาโอกาสของคนยากจน
ปัจจุบันเป็นเรื่องยากมาก หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่คนจนจะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจากคนจนกลายเป็นคนมีฐานะที่ดีได้ ทางพรรคเพื่อชาติเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้กำหนดนโยบายยกเลิกการผูกขาดตัดตอนที่เป็นสัมปทานที่กีดขวางการพัฒนาโอกาสของคนยากจน ตลอดจนการบังคับการใช้กฎหมายกับบริษัทห้างร้านที่มีอำนาจเหนือการตลาด เอารัดเอาเปรียบประชาชน
5. นโยบายปลอดภาษีรถยนต์เพื่อการเกษตรและประมง
เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม รายได้หลักของประชาชนไทยคือ รายได้จากการเกษตร ซึ่งปัจจุบันมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องราคา ปริมาณน้ำฝน อากาศ ศัตรูพืช และอื่นๆ ส่งผลต่อปัจจัยการผลิต ต้นทุนการผลิต เราจึงได้คิดนโยบายนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยลดต้นทุนปัจจัยการผลิต ให้โอกาสเกษตรกรในการมีเครื่องมือที่จะใช้ขนส่งสินค้าไปยังที่ต่างๆ โดยรถยนต์ในที่นี้หมายถึงรถยนต์ทุกประเภทที่ใช้เครื่องยนต์ มีล้อ เป็นพาหนะ พิสูจน์ได้ว่านำมาใช้เพื่อการเกษตรอย่างแท้จริง รัฐจะไม่คิดภาษี ปลอดภาษี 100% โดยพรรคเพื่อชาติเข้าใจถึงหัวอกคนยากคนจน เกษตรกร ที่มักจะขาดโอกาสอยู่เสมอ เราจึงพยายามที่จะคิดนโยบายที่เป็นการให้โอกาส เกษตรกรได้มีรถยนต์ พาหนะที่จะนำมาใช้เพื่อการเกษตรใหม่ๆ สามารถขนส่งสินค้าไปถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ลดการผูกขาดการค้า จากพ่อค้าคนกลาง
6. นโยบายเงินช่วยเหลือผู้สูงวัย 2,000 บาทต่อเดือน
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย เราจะมีประชากรผู้สูงวัยเป็น 1 ใน 5 ของประชาชนทั้งหมด ซึ่งทางพรรคเพื่อชาติเห็นความสำคัญของประชากรจำนวนนี้ จึงได้มีนโยบายในเรื่องเงินผู้สูงอายุ จากเดิมคิดเป็นขั้นบันได แต่พรรคเพื่อชาติคิดใหม่ ผู้สูงอายุอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ได้เงินเท่ากันหมดคนละ 2,000 บาทต่อเดือน ตลอดชีพ
ส่วนนโยบายหลักอื่นๆ ของพรรคนั้น จะมีการจัดแถลงใหญ่อย่างเป็นทางการให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนได้รับทราบพร้อมกันทั่วประเทศในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อีกครั้ง และในช่วงเวลานี้พรรคเพื่อชาติกำลังอยู่ระหว่างการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในภาคอีสาน ‘เพื่อชาติสัญจร’ ตั้งแต่วันที่ 19-26 มกราคม 2562 โดยเริ่มจากจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และสิ้นสุดที่บุรีรัมย์
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล