×

พรรคประชาชนเผย ว่าที่นายก อบจ.ลำพูน พร้อมผลักดันแผนงาน 100 วันแรก แม้เสียดายโอกาสในหลายจังหวัด

โดย THE STANDARD TEAM
02.02.2025
  • LOADING...
peoples-party-lamphun-pao

วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน และ วีระเดช ภู่พิสิฐ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำพูน ผู้สมัครหนึ่งเดียวจากพรรคประชาชนที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ร่วมแถลงข่าวสรุปภาพรวมผลการเลือกตั้งนายก อบจ.

 

ณัฐพงษ์กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาน่าจะเป็นที่แน่ชัดแล้วในทั้ง 47 จังหวัดที่มีการเลือกตั้งในระดับ อบจ. ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชนอยากแสดงคำขอโทษถึงพี่น้องประชาชน ที่พวกเราอาจจะยังรณรงค์ในการให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น หรือ อบจ. ไม่แข็งขันพอ ทำให้ในวันนี้เราอาจจะยังมีนายก อบจ. ที่ไม่มากพอ

 

ณัฐพงษ์ย้ำว่า สิ่งที่พวกเรายืนยันมาโดยตลอด คือเรื่องการออกไปใช้สิทธิของประชาชน ที่ยิ่งมีจำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิมากเท่าไรก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อการพัฒนาการเมืองท้องถิ่นมากเท่านั้น ขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดลำพูนที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งสัดส่วนถือเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับอีก 47 จังหวัดที่เหลือ

 

“เรายังรู้สึกเสียดายโอกาสที่อีกหลายๆ จังหวัด หากพรรคประชาชนสามารถรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิมากกว่านี้ เราก็อาจจะสามารถชนะการเลือกตั้งในระดับ อบจ. ได้ ทั้งจังหวัดเชียงใหม่ นครนายก สมุทรปราการ ตราด และสมุทรสงคราม ที่เรายังไม่สามารถชนะการเลือกตั้งได้ และแพ้ไปเพียงไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”

 

ณัฐพงษ์มองว่า หากดูจากผลการเลือกตั้ง จำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ที่พรรคประชาชนได้รับความไว้วางใจจากประชาชน รวมทั้งหมด 132 คน จาก 33 จังหวัด แบ่งเป็นจังหวัดที่พรรคส่งผู้สมัครนายก อบจ. 80 คน และจังหวัดที่พรรคไม่ได้ส่งผู้สมัครนายก อบจ. อีก 52 คน ยืนยันว่าระดับ ส.อบจ. จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างแข็งขัน รวมถึงผลักดันการบรรจุงบประมาณต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้

 

“เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า อบจ.ลำพูน จะเป็นสนามแรกที่เราจะพิสูจน์ให้กับพี่น้องประชาชนเห็น ว่าการทำงาน การเมืองท้องถิ่นตามแบบฉบับของพรรคประชาชน จะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนชาวไทยทั่วทั้งประเทศได้” ณัฐพงษ์กล่าว

 

ส่วนกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยบนเวทีว่า ‘แดงกินส้ม’ ผลการเลือกตั้งตอนนี้สะท้อนตามที่ทักษิณพูดหรือไม่ ณัฐพงษ์ระบุว่า จริงๆ ตนเองคิดว่าแล้วแต่การตีความ ว่าการกินส้มหมายถึงอย่างไร เพราะส้มเองก็เป็นผลไม้มงคล และที่จังหวัดลำพูนเองก็เป็นสนามหลักที่ตนเองคิดว่าเราจะสามารถพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็น และการทำงานการเมืองที่มีคุณภาพ ทำงานอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา นำเสนอนโยบายให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนเห็นได้ น่าจะเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการที่เราโยนคำพูดใส่กันไปมา

 

ส่วนการที่ทักษิณลงพื้นที่หาเสียงแต่ก็ไม่ได้ชนะทุกเวทียังถือว่ามีมนตร์ขลังหรือไม่ ณัฐพงษ์ระบุว่า หากภาพรวมการเลือกตั้งทั้งประเทศต้องบอกว่าสัดส่วนที่ได้มากสุดคือผู้สมัครที่ประกาศลงในนามอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใดโดยตรง แต่เราก็จะรู้ตามหน้าสื่อมวลชนอยู่แล้วว่าเบื้องหลังผู้สมัครสังกัดพรรคการเมืองใด เพราะฉะนั้นในมุมหนึ่งเราเห็นเรื่องความไม่เต็มที่ในการกระจายอำนาจของพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคแกนนำของรัฐบาล อาจจะเกิดขึ้นได้จากการแข่งขันในสนามการเมืองท้องถิ่นหรือไม่ ในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันหรือไม่ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราจะต้องช่วยกันตั้งคำถามต่อไป

 

ด้านวีระเดชกล่าวขอบคุณพี่น้องชาวจังหวัดลำพูนที่ออกมาใช้สิทธิเป็นอันดับหนึ่ง ถือว่าเรารักษาแชมป์ไว้ได้อีกแล้วในการตื่นตัวทางการเมือง เพื่อทำให้การเมืองท้องถิ่นทำงานใกล้ชิดกับประชาชน และภายหลัง กกต. ให้การรับรองแล้ว ตนจะตั้งใจทำงานให้กับประชาชน ตามหลักการทำงาน 3 ป. คือ ‘โปร่งใส’, มี ‘ประสิทธิภาพ’, และทำงานร่วมกับ ‘ประชาชน’

 

ขณะที่ศรายุทธิ์กล่าวถึงผลกระทบจากการเลือกตั้งในวันเสาร์ว่า จากข้อมูลที่เรามีอยู่จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขณะนี้ยังได้ไม่ครบ เราจึงนำจังหวัดที่คะแนนนิ่งแล้วมาวิเคราะห์ดู และพบสิ่งที่น่าสนใจคือมีจำนวนสัดส่วนผู้มาใช้สิทธิลดลงแน่นอน จาก 62% เหลือเพียง 55% ซึ่งหายไป 7-8% ที่ประชาชนไม่ได้มาใช้สิทธิ

 

ศรายุทธิ์ยกตัวอย่างจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ จันทบุรี ภูเก็ต นนทบุรี สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี ชลบุรี และระยอง ซึ่งจำนวนผู้มาใช้สิทธิที่ลดลงนี้อาจจะส่งผลต่อคะแนนการเลือกตั้งด้วย ดังนั้นเราจึงเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ และอยากให้ กกต. ทบทวนแนวการประกาศวันเลือกตั้งในอนาคต ว่าการเลือกตั้งในวันเสาร์สอดคล้องกับการดำเนินการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนหรือไม่ เพราะการเลือกตั้งในครั้งนี้ถือว่าเป็นผลพิสูจน์บทหนึ่ง ว่าการเลือกตั้งในวันเสาร์ไม่ตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตจริงของประชาชน และไม่เอื้อให้ประชาชนเข้ามาใช้สิทธิได้

 

ศรายุทธิ์เปิดเผยว่า ขณะนี้มีอยู่ 2 จังหวัดที่เรามีความสงสัยคือ เชียงใหม่และสมุทรปราการ ซึ่งทีมงานยังคงต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะกรณีบัตรที่มีการระบุว่าเป็นบัตรเสียจำนวนไม่น้อย ที่เมื่อนำมาเทียบกับคะแนนแพ้ชนะแล้วก็อาจจะมีผลต่อผลการเลือกตั้ง 

 

“ดังนั้นในช่วงบ่ายของวันนี้ เราจะไปยื่น กกต. เพื่อให้ตรวจสอบบัตรเสีย ว่ามีจำนวนถูกต้องตามที่ได้เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่”

 

เมื่อถามว่าการชนะในพื้นที่จังหวัดลำพูนเพียงจังหวัดเดียวจะเป็นการเพิ่มความกดดันให้กับผู้สมัครในครั้งต่อไปหรือไม่ วีระเดชกล่าวว่า ไม่ได้กดดัน จริงๆ แล้วเราทำนโยบายมาก่อนแล้ว ว่า 4 ปีภายใต้กรอบงบประมาณ เราจะทำอะไรได้บ้าง มันตั้งอยู่บนความเป็นไปได้ ซึ่งถือว่าไม่กดดัน และทำได้อย่างแน่นอน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ณัฐพงษ์และคณะจะลงพื้นที่ด่วนเพื่อขอบคุณประชาชนชาวลำพูนที่มอบความไว้วางใจให้ว่าที่นายก อบจ. และจะมีกำหนดการประชุมหารือร่วมกับทีมพรรคประชาชนเพื่อร่างแผนงานในการผลักดันนโยบายท้องถิ่นต่อไป

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising