โปรตอน (Proton) ผู้ผลิตรถยนต์แห่งชาติของมาเลเซีย เตรียมเดินสายการผลิตโรงงานรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แห่งแรกในเดือนกันยายนนี้ ที่เมืองตันจง มาลิม รัฐเปรัก ศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ห่างจากกัวลาลัมเปอร์ราว 2 ชั่วโมง โดยโรงงานดังกล่าวใช้งบลงทุนกว่า 82 ล้านริงกิต (ราว 19.5 ล้านดอลลาร์)
โรงงานเริ่มต้นด้วยกำลังการผลิตปีละ 20,000 คัน และสามารถขยายได้สูงสุดถึง 45,000 คันต่อปี ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด ปัจจุบันความคืบหน้าโครงการเสร็จแล้วกว่า 90%
วัน ยูสรี บิน โมฮาเหม็ด หัวหน้าวิศวกรรมการผลิตของโปรตอน ระบุว่า โครงการนี้ถือเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ของบริษัท สะท้อนถึงการก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์แห่งอนาคตที่ยั่งยืนและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี พร้อมย้ำว่าบริษัทกำลังวางรากฐานเพื่อผลักดันให้มาเลเซียก้าวขึ้นเป็นผู้นำ EV ของภูมิภาค และขยายสู่ตลาดต่างประเทศ
e.MAS 7 ครองแชมป์ EV ในมาเลเซียต่อเนื่อง 7 เดือน
ก่อนหน้านี้ โปรตอนเปิดตัว e.MAS 7 ซึ่งพัฒนาจาก Geely Galaxy E5 ของจีน และกลายเป็นรถ EV ที่ขายดีที่สุดในมาเลเซียติดต่อกัน 7 เดือน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 23.4% โดยตั้งแต่เปิดตัวเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว มียอดส่งมอบแล้ว 4,959 คัน (ในประเทศ 4,689 คัน และส่งออก 270 คันไปยังเนปาล สิงคโปร์ และตรินิแดดและโตเบโก) เฉพาะเดือนกรกฎาคมมียอดจองใหม่สูงสุด 1,365 คัน
โรงงานแห่งใหม่นี้จะผลิต e.MAS 7 เป็นรุ่นหลัก และคาดว่าโปรตอนจะเปิดตัว EV รุ่นใหม่ราคาย่อมเยากว่าอย่าง e.MAS 5 ในไตรมาส 4 ปีนี้
ยอดขาย EV มาเลเซียพุ่ง 35% ครึ่งปีแรก
สมาคมยานยนต์มาเลเซีย (MAA) รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด (xEV) ในครึ่งแรกปี 2025 อยู่ที่ 30,573 คัน เพิ่มขึ้น 35.6% จากช่วงเดียวกันปี 2024 สะท้อนความต้องการที่ขยายตัวต่อเนื่อง แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์จะเริ่มชะลอตัว
โมฮามัด ชัมซอร์ ประธาน MAA เปิดเผยว่า ปัจจุบันสัดส่วน xEV อยู่ที่ 8% และคาดว่าจะปิดปีที่ 9.6% อย่างไรก็ตามยังต่ำกว่าเป้าหมายรัฐบาลที่ตั้งไว้ 30% ภายในปี 2030
รัฐบาลมาเลเซียได้ยกเว้นภาษีถนนสำหรับ EV ตั้งแต่ปี 2022 ถึงสิ้นปี 2025 และจะเริ่มเก็บภาษีถนนแบบใหม่ตามกำลังเครื่องยนต์ไฟฟ้าในปี 2026 ซึ่งถูกกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปอย่างมาก
ชัมซอร์เตือนว่า หากมาตรการสนับสนุนสิ้นสุดลง อาจเกิดการเร่งซื้อ EV ช่วงปลายปี 2025 แต่ความต้องการในระยะยาวอาจซบเซา คล้ายประสบการณ์กับรถไฮบริดเมื่อ 15 ปีก่อน
ภาพ: Alex Mares-Manton / Getty Images
อ้างอิง: