ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วานนี้ (24 พฤษภาคม) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดี 3 ยื่นฟ้องคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของ กิตติคุณ ธรรมกิติราษฎร์ หรือ มัมดิว เจ้าของเพจมัมดิวไดอารี่ และ ธิดาพร ชาวคูเวียง หรือ หนูรัตน์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ จากกรณีทำแคมเปญโฆษณาลาซาด้า 5.5 ร่วมกับ ‘นารา เครปกะเทย’ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2565
ในคดีนี้มี ศรีสุวรรณ จรรยา เป็นผู้แจ้งความกล่าวหาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ต่อมาวันที่ 16 มิถุนายน 2565 มัมดิวและหนูรัตน์ถูกตำรวจควบคุมตัวตามหมายจับของศาลอาญา พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ‘ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์’
ต่อมายังมีการแจ้งข้อหากับสองบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาดังกล่าว และอัยการสั่งฟ้องคดีร่วมกับมัมดิวและหนูรัตน์ในครั้งนี้ด้วย ส่วนในกรณีของนารา ถูกฟ้องแยกคดีเป็นอีกสำนวนหนึ่งไปก่อนหน้านี้แล้ว
ดนุพล จาตุรนต์พงศา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้เรียงฟ้องในคดีนี้ โดยกล่าวหาจำเลยทั้งหมดในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เฉพาะนาราและสองบริษัทยังถูกกล่าวหาในข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) (3) ตลอดจนร่วมกันใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมโดยรวม
ในคำฟ้อง อัยการได้ฟ้องข้อหาตามมาตรา 112 แยกเป็นสองกระทง กระทงแรกได้บรรยายพฤติการณ์ข้อกล่าวหาโดยสรุปว่า ในระหว่างวันที่ 3-5 พฤษภาคม 2565 หนูรัตน์กับบริษัทโฆษณาและบริษัทขายสินค้า พร้อมกับนารา ได้ร่วมกันผลิตจัดทำวิดีโอโฆษณาขนาดสั้นและภาพนิ่งอันมีลักษณะเป็นการล้อเลียน พาดพิง หมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ และรัชทายาท เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจกรรมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์
คำฟ้องสรุปว่าการกระทำของจำเลยทั้งหมด เป็นการจงใจแสดงให้ประชาชนที่พบเห็นเกิดความเข้าใจความหมายตามที่จำเลยแสดง ซึ่งเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ด้อยค่า ดูหมิ่น และหมิ่นประมาท ต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี อีกทั้งยังเป็นการด้อยค่า ดูหมิ่น และทำให้พระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เสื่อมพระเกียรติ
อัยการโจทก์ยังคัดค้านการประกันตัวมัมดิวและหนูรัตน์ โดยระบุว่าคดีมีอัตราโทษสูง และเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง
ต่อมาวันเดียวกัน ศาลอาญาได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวจำเลยระหว่างพิจารณาคดี กำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำการในลักษณะเดียวกันที่อาจทำให้เสื่อมเสีย และห้ามชุมนุมที่อาจทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยให้วางหลักทรัพย์ประกันคนละ 90,000 บาท ซึ่งกรณีของมัมดิวและหนูรัตน์ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์
อ้างอิง: