“ตอนนี้ร้านยื้อราคาให้มากที่สุดแล้วเพราะสงสารลูกค้า”
แม่ค้าขายเครื่องปรุงในตลาดห้วยขวางเล่าว่าสินค้าบางชนิดต้นทุนไม่ได้ปรับสูงขึ้น แต่ค่าน้ำมันรถที่มีผลกับค่าส่งของโดยตรงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระทบกับราคาสินค้าหลายอย่าง แต่ตอนนี้ร้านตัดสินใจที่จะแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นไว้เอง ไม่ให้ลูกค้าต้องเดือดร้อน แต่หากวันข้างหน้าราคาสูงไปกว่านี้ก็อาจจะต้องขอลูกค้าปรับหน้าร้าน
“ทุกวันนี้ที่ร้านได้กำไรจากของที่ขายชิ้นละ 1 บาท
เสียงสะท้อนจากพ่อค้าร้านของชำอีกร้านเล่าว่า ตอนนี้วัตถุดิบต่างๆ ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ เช่น น้ำพริกเผา ปรับราคาสูงขึ้น รวมไปถึงภาชนะบรรจุ เช่น ขวดและโลหะ ก็ปรับไปตามๆ กัน แม้ว่าตอนนี้จะยังตรึงราคาเดิมอยู่เพราะไม่อยากให้ลูกค้าเดือดร้อนแต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ที่ร้านได้กำไรเพียงชิ้นละ 1 บาทแล้ว
“อาทิตย์ก่อนว่าแย่แล้ว หลังจากนี้จะแย่กว่านี้”
พ่อค้าร้านข้าวสารพูดถึงราคาข้าวที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้รับแจ้งมาว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการปรับราคาข้าวสูงขึ้น ทั้งข้าวเหนียวและข้าวสาร เขายอมรับว่ารู้สึกสงสารลูกค้าที่ต้องกินข้าวราคาสูงขนาดนี้ บางคนยังมีค่าแรงเท่าเดิมแต่ค่าครองชีพกลับเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ไม่รู้ว่าจะสู้ไหวไปถึงเมื่อไร
“พวกเขากำลังแก้ปัญหากันอยู่ใช่ไหม”
พ่อค้าขายลูกชิ้นย้อนถามกลับเมื่อเราถามว่าตอนนี้ของแพงไหม เขาบอกว่าทุกอย่างแพงเรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ แต่รัฐบาลและใครก็ตามที่เกี่ยวข้องรู้เรื่องใช่ไหม เพราะถ้ามีการควบคุมราคาของสินค้าให้ดีกว่านี้ พวกเขาที่เป็นพ่อค้ารายย่อยคงไม่ต้องแบกรับภาระที่มากขนาดนี้
“จ่ายตลาดแต่ละวันแทบไม่เหลือเงินเก็บ”
ขณะที่ลูกค้าที่มาจ่ายตลาดเล่าว่า ราคาน้ำมันพืชเวลานี้ราคาสูงมาก ไข่ไก่ เนื้อหมูราคาขึ้นสูงหมด เมื่อเทียบกับราคาค่าครองชีพในแต่ละวันแล้ว มาจ่ายตลาดแต่ละวันตอนนี้แทบไม่เหลือเงินเก็บ
ทั้งหมดนี้คือเสียงสะท้อนจากบรรยากาศจริงที่ประชาชนรวมถึงผู้ประกอบการกำลังได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่กำลังพุ่งสูงขึ้น ซึ่งสวนทางกับรายรับหรือค่าแรง ขณะที่แม้ผู้ประกอบการจะพยายามช่วยเหลือพยุงราคาขายไม่ให้สูงมาก เพราะเข้าใจสภาพเศรษฐกิจปากท้องของลูกค้า แต่ก็ไม่แน่นอนว่าจะยื้อไปได้ขนาดไหน