หนึ่งในกลยุทธ์ที่ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลหรือ Private Banking ใช้เพื่อรักษาฐานลูกค้าของตัวเองคือการเข้าไปสร้างความสัมพันธ์กับบรรดาทายาทของมหาเศรษฐีตั้งแต่ที่พวกเขายังอายุน้อยๆ
การเชิญว่าที่มหาเศรษฐีเหล่านี้มาร่วมบูทแคมป์พิเศษ รวมถึงงานกาล่าดินเนอร์ในภัตตาคารระดับมิชลินสตาร์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรวยได้สร้างเครือข่ายทำความรู้จักกัน ถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ Private Banks มักจะทำกันเป็นประจำ
ในช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา แม้ว่า Private Banks ส่วนใหญ่จะยังมีการจัดกิจกรรมคอร์สอบรมให้ความรู้ต่างๆ สำหรับทายาทคนรวยเหล่านี้ผ่านช่องทางออนไลน์ แต่การที่ไม่ได้พบหน้าค่าตากันแบบตัวเป็นๆ ก็ทำให้ความสัมพันธ์อาจไม่แนบแน่นเท่าเดิม
“ผมเลือกที่จะบินไปทั่วโลกเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมแบบตัวเป็นๆ มากกว่า เวลาที่ต้องทำกิจกรรมแบบออนไลน์ผมจะเปิดกล้องทิ้งไว้แล้วเข้านอนแทน” Benjamin Hort ทายาทมหาเศรษฐีวัย 19 ปี จากสาธารณรัฐเช็กกล่าว
ปัจจุบันเกือบทุกประเทศทั่วโลกได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดลงแล้ว และเปิดให้ผู้คนสามารถเดินทางและทำกิจกรรมได้เหมือนเก่า ทำให้กลุ่ม Private Banks เริ่มกลับมาโหมจัดกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์กับเหล่าทายาทเศรษฐีกันอีกครั้ง
ไม่นานมานี้ Bank of Singapore ได้จัด Entrepreneur Boot Camp หรือแคมป์พิเศษสำหรับผู้ประกอบการในอนาคต โดยเชิญทายาทเศรษฐี 12 คนจากทั่วโลกให้มารวมตัวกันที่โรงแรม Ritz-Carlton ในงานดังกล่าวมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจและการลงทุน ซึ่งรวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
ขณะที่สถาบันการเงินชื่อดังอย่าง Citi Private Bank และ Lombard Odier ก็เริ่มมีการจัดกิจกรรมสำหรับทายาทเศรษฐีในหลายเมืองสำคัญของเอเชียเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ทรัพย์สินหลายล้านล้านดอลลาร์ในเอเชียกำลังจะถูกส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า 72 จาก 141 ของคนที่รวยที่สุดของเอเชียในขณะนี้มีอายุมากกว่า 60 ปี
การสร้างความสัมพันธ์กับทายาทของมหาเศรษฐีเอาไว้แต่เนิ่นๆ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบรรดา Private Banks เพราะหากพวกเขาล้มเหลวย่อมหมายถึงการสูญเสียฐานลูกค้าระดับคุณภาพและดีลที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตอีกเป็นจำนวนมาก
Lee Wong ผู้บริหารของ Lombard Odier ในสิงคโปร์ ระบุว่า ธุรกิจ Private Banking ไม่ได้มองแค่การสร้างความสัมพันธ์กับทายาทเศรษฐีที่อาจจะก้าวขึ้นมาถือครองสินทรัพย์ภายใน 2 ปีข้างหน้า แต่การจัดกิจกรรมเหล่านี้ยังเป็นการรักษาความสัมพันธ์กับมหาเศรษฐีในตระกูลต่างๆ ที่เป็นฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว รวมถึงเปิดโอกาสในการเข้าถึงฐานลูกค้าคนรวยใหม่ๆ อีกด้วย
ขณะที่ Donna Leong ผู้บริหารของ Citi Private Bank ในฮ่องกง กล่าวว่า รูปแบบการจัดกิจกรรมเพื่อเจาะกลุ่มทายาทเศรษฐีในยุคหลังโควิดเริ่มมีการปรับเปลี่ยนไป เนื่องจากกลุ่มคนอายุน้อยในปัจจุบันให้ความสนใจกับการทานอาหารหรูหราและกิจกรรมแพงๆ น้อยลง
“สิ่งที่พวกเขาสนใจมากคือการลงทุนในโลกยุคใหม่ เช่น NFTs และ Metaverse การจัดกิจกรรมของ Private Banks จึงต้องมีความสอดคล้องกับพฤติกรรมที่ปรับเปลี่ยนไป” Leong กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘4 อุปนิสัย’ ที่ทำให้คนรวย ‘รวยยิ่งขึ้น!’ บทสรุปจากการสัมภาษณ์เศรษฐี 225 คน
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- ‘6 คนดัง’ กับคอลเล็กชันของสะสมส่วนตัวที่ราคาไม่ธรรมดา
อ้างอิง: